แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก Binance เผยว่าจำเป็นต้องจำกัดกิจกรรมการซื้อขายของผู้ใช้งานที่เป็นชาวรัสเซีย เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย
Binance ประกาศว่าจะจำกัดการให้บริการชาวรัสเซียที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ามากกว่า 10,000 ยูโร หรือคิดเป็นประมาณ 10,893 ดอลลาร์ โดยจะไม่สามารถซื้อขายหรือฝากสกุลเงินดิจิทัลได้อีกต่อไป รวมถึงการซื้อขายฟิวเจอร์สและ Staking ด้วย ผู้ใช้งานชาวรัสเซียจะทำได้เพียงถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มเท่านั้น หากมีเงินฝากของบัญชีรัสเซียเข้ามาก็จะถูกบล็อกทันที ซึ่งกฎระเบียบนี้ใช้กับบุคคลที่มีสัญชาติรัสเซียและหน่วยงานที่อาศัยอยู่ในรัสเซียทั้งหมด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สหภาพยุโรปประกาศการคว่ำบาตรรัสเซียรอบที่ 5 จากการรุกรานยูเครน มาตรการคว่ำบาตรล่าสุดจะมีการอายัดทรัพย์สินในหน่วยงานของรัสเซียหลายแห่ง และยังป้องกันไม่ให้ชาวรัสเซียได้รับเงินทุนจากสหภาพยุโรปอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้จะตัดขาดรัสเซียจากระบบการเงินตะวันตกอย่างเด็ดขาด
จากแถลงการณ์ล่าสุด Binance ระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับบัญชีของชาวรัสเซียที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศรัสเซียตามหลักฐานที่อยู่ และบัญชีชาวรัสเซียหรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า 10,000 ยูโรจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหวครั้งนี้และสามารถดำเนินการต่อไปได้
ท่าทีล่าสุดของ Binance เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ที่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อการเรียกร้องให้หยุดให้บริการชาวรัสเซีย ซึ่ง ชางเพ็งเจา ซีอีโอ Binance ยืนยันว่าแพลตฟอร์มจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรในลักษณะเดียวกันกับสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม แม้ว่ามาตรการเหล่านี้อาจมีข้อจำกัดสำหรับพลเมืองรัสเซียทั่วไป แต่ Binance จะต้องเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ต่อไปในการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ ซึ่งเขาเชื่อว่าแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตหลักอื่นๆ ทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามกฎเดียวกันในไม่ช้า
Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำอีกแห่งได้บล็อกที่อยู่กระเป๋าคริปโตกว่า 25,000 รายการ ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหรือหน่วยงานในรัสเซียที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ไบรอัน อาร์มสตรอง ซีอีโอของ Coinbase เผยว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวรัสเซียจำนวนมากในช่วงเวลานี้ ในขณะที่สกุลเงินของพวกเขากำลังจะพังทลาย ซึ่งเขาจะไม่แบนผู้ใช้งานรัสเซียทั้งหมด
ท่าทีของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำท่ีมีต่อผู้ใช้งานรัสเซียยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนในชุมชนคริปโตส่วนหนึ่งเชื่อว่าคริปโตเคอร์เรนซีควรมีการกระจายอำนาจ (Decentralized) และไม่ควรถูกควบคุมโดยประเทศใดหรือหน่วยงานใด
อ้างอิง: