วันนี้ (3 เมษายน) เกาหลีเหนือประณามคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เกี่ยวกับความสามารถในการโจมตีเกาหลีเหนือ และเตือนว่าเกาหลีเหนือจะทำลายเป้าหมายหลักในกรุงโซล หากเกาหลีใต้ดำเนิน ‘ปฏิบัติการทางทหารใดๆ ที่เป็นอันตราย’ เช่น การชิงโจมตีก่อน
โดยสำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า ท่าทีของเกาหลีเหนือดังกล่าวมาจาก คิมโยจอง น้องสาวของคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งระบุผ่านแถลงการณ์ว่าคำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ “ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีและความตึงเครียดทางทหารบนคาบสมุทรเกาหลีแย่ลงไปอีก”
คำกล่าวจาก ซออุค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ที่กล่าวไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 เมษายน) ระบุว่า กองทัพเกาหลีใต้มีขีปนาวุธหลากหลายแบบซึ่งมีระยะการยิง ความแม่นยำ และกำลังที่พัฒนาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วย “ความสามารถในการโจมตีเป้าหมายใดๆ ในเกาหลีเหนืออย่างแม่นยำและรวดเร็ว”
ซออุคยังกล่าวอีกว่า ทางกระทรวงจะสนับสนุนกองทัพอย่างแข็งขันเพื่อให้แน่ใจว่ามีความสามารถในการตอบสนองต่อภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างเด็ดขาด เขายังเรียกเกาหลีเหนือว่าเป็น ‘ศัตรู’ ของเกาหลีใต้ด้วย
คิมโยจอง ซึ่งยังเป็นรองผู้อำนวยการคณะกรรมการกลางของพรรคแรงงานแห่งเกาหลีของเกาหลีเหนือด้วย กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะ ‘พิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง’ และเกาหลีใต้ ‘อาจเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรง’ อันเนื่องมาจากคำกล่าวดังกล่าว
และในแถลงการณ์อีกฉบับของวันนี้ พัคจองชอน เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานแห่งเกาหลีของเกาหลีเหนือ กล่าวว่าเกาหลีเหนือ “จะสั่งการกองกำลังทหารทั้งหมดของตนให้ทำลายเป้าหมายหลักในกรุงโซลและกองทัพเกาหลีใต้อย่างไร้ความปราณี” หากกองทัพเกาหลีใต้เข้าร่วมปฏิบัติการทางทหารที่เป็นอันตราย เช่น การชิงโจมตีก่อน อย่างไรก็ตาม ฝั่งเกาหลีเหนือไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจุดใดที่เกาหลีเหนือเห็นว่าเป็นเป้าหมายหลักในกรุงโซล
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ 2 ลูกในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และ 4 มีนาคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile: ICBM) ใหม่ที่เกาหลีเหนือกำลังพัฒนา และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือก็ดำเนินการทดสอบ ICBM อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งภายหลังการทดสอบขีปนาวุธเหล่านี้ ทำให้เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงาน 5 แห่งที่ถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง และโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ ความตึงเครียดอาจเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากว่าที่ประธานาธิบดียุนซอกยอลแห่งเกาหลีใต้ เตรียมเข้ารับตำแหน่งในเดือนหน้า ซึ่งยุนซอกยอลเคยกล่าวไว้ในอดีตว่า การชิงโจมตีก่อนอาจเป็นวิธีเดียวที่จะตอบโต้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงใหม่ของเกาหลีเหนือ หากปรากฏว่าขีปนาวุธดังกล่าวพร้อมสำหรับการโจมตีที่ใกล้จะเกิดขึ้น
ยุนซอกยอลได้เรียกร้องให้ส่งเสริมการป้องปรามทางทหาร ซึ่งรวมถึงการกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และให้คำมั่นที่จะหาหนทางเพื่อสร้างช่องทางการเจรจาสามทางแบบถาวรระหว่างเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ และสหรัฐอเมริกา
ภาพ: JORGE SILVA / POOL / AFP (แฟ้มภาพของคิมโยจองเมื่อปี 2019)
อ้างอิง: