วานนี้ (24 มีนาคม) โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ชี้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หวังให้ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) แตกแยก แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น “NATO ไม่เคยแน่นแฟ้นเป็นหนึ่งเดียวกันมากเท่ากับวันนี้มาก่อน” ขณะกำลังเข้าร่วมประชุมหารือกับบรรดาผู้นำประเทศและผู้นำองค์กรในกลุ่มสมาชิก NATO สหภาพยุโรป และกลุ่ม G7 เพื่อหาทางออกให้กับสงครามรัสเซีย-ยูเครน
โดยผู้นำสหรัฐฯ สนับสนุนการปลดรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศ G20 พร้อมเตรียมจัดสรรงบประมาณราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามในครั้งนี้ อีกทั้งสหรัฐฯ ยังจะเปิดรับผู้ลี้ภัยจากยูเครนราว 1 แสนราย เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤตผู้ลี้ภัยในยุโรป ที่ไฟสงครามยังคงผลักดันให้ผู้ลี้ภัยไหลทะลักเข้าสู่บรรดาประเทศเพื่อนบ้านของยูเครน โดยเฉพาะโปแลนด์และโรมาเนียอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ลี้ภัยออกจากยูเครนสูงกว่า 3.67 ล้านรายแล้ว
นอกจากนี้กองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลัง NATO ยังไปประจำการเพิ่มในบัลแกเรีย ฮังการี โรมาเนีย และสโลวาเกีย เพิ่มเติม เพื่อเสริมแนวต้านการรบหากไฟสงครามขยายวงกว้างมาถึงหนึ่งในแผ่นดินของบรรดาประเทศสมาชิก NATO 30 ประเทศ ที่ทุกประเทศต่างมีพันธกรณีต่อกัน ในการช่วยกันปกป้องหากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี
ทางด้าน เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการ NATO ระบุว่า “พวกเรามีความรับผิดชอบในการที่จะป้องกันไม่ให้สงครามนี้ขยายตัวเป็นสงครามเต็มรูปแบบในยุโรป ซึ่งไม่เพียงแต่รัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรัสเซีย-พันธมิตร NATO ด้วย เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะยิ่งอันตรายและก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก”
ภาพ: Henry Nicholls – Pool / Getty Images
อ้างอิง: