สัญญาใหม่ ‘โม ซาลาห์’ ที่ยังหาจุดลงตัวกับลิเวอร์พูลไม่เจอ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มีนาคม) มีความคืบหน้าที่น่าสนใจในกรณีสัญญาฉบับใหม่ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สตาร์กองหน้าหมายเลขหนึ่งของทีมลิเวอร์พูล

โดยในการแถลงข่าวก่อนเกมที่จะไปเยือนไบรท์ตันวันนี้ เวลา 19.30 น. ตามประเทศไทย เจอร์เกน คล็อปป์ ถูกผู้สื่อข่าวสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องของการต่อสัญญาฉบับใหม่ให้แก่กองหน้าทีมชาติอียิปต์ ซึ่งทางด้านผู้จัดการทีมชาวเยอรมันได้กล่าวค่อนข้างชัดเจน

“โมคาดหวังว่าสโมสรแห่งนี้จะมีความทะเยอทะยานแบบเดียวกับเขา ซึ่งเราก็มีความทะเยอทะยานเหมือนกัน ตอนนี้มันเป็นการตัดสินใจของโม สโมสรได้ทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้แล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี”

ก่อนที่จะยืนยันว่า ยังไม่มีการตอบรับ ไม่มีการปฏิเสธ หรืออะไรทั้งนั้น และสิ่งที่ทำได้คือ ต้องรอและไม่ได้เร่งรีบแต่อย่างใด

แต่หลังจากนั้นได้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นตามมา

อีโมจิปริศนาจากเอเจนต์

ภายหลังคล็อปป์ได้ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องของซาลาห์อีกครั้ง คนที่จะได้รับการจับตามองเสมอคือ รามี อับบาส ผู้ที่ทำหน้าที่เอเจนต์ของกองหน้าวัย 29 ปี ซึ่งเป็นคู่เจรจากับฝ่าย ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ และ จูเลียน วอร์ด ของสโมสรลิเวอร์พูล

อับบาสได้มี ‘รีแอ็กชัน’ ต่อคำตอบของคล็อปป์ที่เป็นปริศนา และถูกนำไปตีความอีกครั้ง โดยสิ่งที่อับบาสทำคือ การพิมพ์ตัวอีโมติคอนเป็นรูป ‘หัวเราะ’ หลายตัวติดกันแบบนี้ ‘🤣🤣🤣🤣🤣🤣’

ข้อความปริศนาที่ตีความไม่น่ายากในความเห็นของแฟนลิเวอร์พูลจำนวนมากคือ อับบาสรู้สึกขบขันกับคำตอบในครั้งนี้ของคล็อปป์ และชวนให้มีการถกเถียงกันต่อในทำนองที่ว่า บางทีสิ่งที่นายใหญ่แห่งแอนฟิลด์บอกนั้นอาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงของการเจรจา

และที่สำคัญนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อับบาสทำแบบนี้ด้วย

Here We No!

ต่อจากอับบาส คนที่โหมกระแสต่อคราวนี้คือ ฟาบริซิโอ โรมาโน ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลีซึ่งมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องของการโยกย้ายผู้เล่น เรียกได้ว่าเป็น Specialist ของวงการที่แฟนฟุตบอลต้องคอยตามข่าวความเคลื่อนไหว

โรมาโนรายงานผ่านทางช่องทางของตัวเองไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า “ซาลาห์จะไม่ต่อสัญญากับลิเวอร์พูล”

แม้จะมีการขยายความว่า “ในเงื่อนไขปัจจุบันที่ได้รับ” เพียงแต่เปิดช่องเอาไว้ว่า สตาร์ชาวอียิปต์ซึ่งย้ายมาจากโรมาเมื่อปี 2017 ก่อนจะกลายเป็นนักเตะเบอร์ 1 ของสโมสรในยุคปัจจุบันนั้น “ยังต้องการที่จะอยู่ แต่ในเวลาเดียวกันก็ไม่ต้องการที่จะเซ็นสัญญานี้”

พูดง่ายๆ คือ เป็นสถานการณ์กระอักกระอ่วนสไตล์ Getsunova ‘อยากอยู่แต่ไม่อยากเซ็น’

แล้วแบบนี้จะทำอย่างไร?

จุดลงตัวที่ยังหาไม่เจอ

ทีนี้ หากมองความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่ามีความแตกต่างจากความเคลื่อนไหวหลายครั้งก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น

โดยวิธีแล้วอาจจะแตกต่าง เพราะเรื่องได้เดินทางมาถึงจุดที่คล็อปป์เป็นคนพูดเองว่า ‘อยู่ที่โม’ ซึ่งหมายถึงสโมสรคิดว่าได้เสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แล้ว ขณะเดียวกันก็มีการใช้ผู้สื่อข่าวดังอย่างโรมาโนโหมกระแสต่อเป็นครั้งแรกว่า ถ้าหากเป็นเงื่อนไขในปัจจุบันก็คงตกลงกันไม่ได้

อย่างไรก็ดี สถานการณ์นั้นเป็นแบบนี้มาสักระยะแล้ว โดยการเจรจาครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม และไม่มีการเจรจาพูดคุยใดๆ เพิ่มเติมอีก

ทั้งนี้ สิ่งที่ฝ่ายของซาลาห์ที่มีอับบาสเป็นตัวแทนในการเจรจาและคิดกลยุทธ์ (การให้สัมภาษณ์กับสื่อสเปน หรือการให้สัมภาษณ์ไม่นานก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องอนาคต) ทำคือการสร้างแรงกดดันให้แก่ลิเวอร์พูล เพื่อยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเรียกร้องให้ได้

ปัญหาคือ ไม่มีใครที่รู้แน่ชัดว่ากองหน้ารายนี้ต้องการอะไรแค่ไหน? โดยหากยึดตามรายงานข่าวแล้ว สิ่งที่ซาลาห์ต้องการคือ ค่าตอบแทนที่อยู่ในระดับเดียวกับนักเตะระดับท็อปของพรีเมียร์ลีกได้รับ โดยค่ามาตรฐานในเวลานี้คือจำนวนเงิน 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ของ เควิน เดอ บรอยน์ เบอร์หนึ่งของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

แต่หากยึดตามที่ซาลาห์พยายามบอกมาโดยตลอดคือ ข้อเรียกร้องของเขาไม่ได้ไม่สมเหตุสมผลอย่างที่ใครคิดกัน

ปัญหาจึงอาจเป็นข้อเสนอจากลิเวอร์พูลที่ไม่สามารถยื่นข้อเสนอในระดับที่เขาพอใจได้ หรืออาจยังไม่กล้าที่จะยื่นข้อเสนอในระดับนั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อโครงสร้างค่าเหนื่อยของสโมสร ซึ่งความจริงแล้วลิเวอร์พูลก็เป็นหนึ่งในทีมที่จ่ายเงินค่าตอบแทนให้แก่นักฟุตบอลมากที่สุด

เพียงแต่จะไม่ได้ทุ่มให้ใครคนใดคนหนึ่ง แต่จะเฉลี่ยกันไปทั้งทีม

ซาลาห์จะเซ็นหรือจะต้องย้าย?

คำถามสำคัญที่สุดที่ทุกคนอยากรู้คือ แล้วแบบนี้ซาลาห์และลิเวอร์พูลจะทำอย่างไร

ความยากของการเจรจาคือ การที่สัญญาของดาวยิงที่นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเวลานี้ที่ 19 ประตู และขึ้นนำในทำเนียบดาวแอสซิสต์อีก 11 ครั้งเหลือถึงแค่สิ้นสุดฤดูกาล 2023 เท่านั้น หลังจากที่ต่อสัญญาครั้งล่าสุดในปี 2018

นั่นหมายถึงเวลาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยากดดันต่อทั้งสองฝ่ายให้ต้องรีบดำเนินการ

หากตกลงกันได้ก็ดีไป แต่หากตกลงกันไม่ได้ บางทีอาจจำเป็นต้องแยกทางกันหลังจบฤดูกาลนี้ในช่วงที่ลิเวอร์พูลยังสามารถที่จะทำกำไรจากการขายสตาร์ชาวอียิปต์ ซึ่งแม้วัยจะถึง 29 ปีแล้ว แต่กำลังอยู่ในช่วงท็อปพีคที่สุด และจากสภาพร่างกายแล้วมีโอกาสที่ซาลาห์จะยืนระยะการเล่นในระดับสูงสุดได้เกินกว่าอายุ 35 ปี

มีหลายทีมที่สนใจในตัวเขา และมีปมในรายงานข่าวเรื่องนี้ที่ชวนคิดตามด้วยว่า “ซาลาห์อยากจะเล่นในพรีเมียร์ลีกต่อไป” นั่นอาจหมายความว่ามีทีมคู่แข่งที่ได้พยายามติดต่อทาบทามแล้วด้วยซ้ำไป (ถ้าสมมติจะเล่นให้แมนฯ ซิตี้ จะทำใจกันไหวไหม?)

ขณะที่ลิเวอร์พูลเองก็มีรายงานข่าวกับนักเตะใหม่ที่น่าสนใจ เช่น จาร์รอด โบเวน ปีกที่ฟอร์มร้อนแรงของเวสต์แฮมยูไนเต็ด และ ราฟินญา ปีกดาวเด่นทีมชาติบราซิลของลีดส์ ยูไนเต็ด

ทั้งนี้ ยังมีโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะเปลี่ยนใจเพิ่มข้อเสนอให้ตามข้อเรียกร้องเช่นกัน และเช่นเดียวกับที่ฝั่งของซาลาห์เองก็มีโอกาสที่จะโอนอ่อนในการเจรจา แต่อาจจะต้องมีการลดราวาศอกกันสักนิด เลิกลองใจกัน และหันมาคุยกันด้วยความจริงใจแทน

เพราะสำหรับลิเวอร์พูล การหานักเตะทดแทนคนที่มีประสิทธิภาพเข้าขั้นมหัศจรรย์อย่างซาลาห์ไม่ใช่เรื่องง่าย และสำหรับซาลาห์การจะหาทีมที่เข้ากันได้ดีไปเสียทุกอย่างแบบลิเวอร์พูลก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน มีไม่กี่ทีมในโลกที่จะดีพร้อมแบบนี้ในเรื่องของโอกาสการประสบความสำเร็จ ไปจนถึงบรรยากาศภายในทีม และแฟนฟุตบอล

เรื่องนี้คือสิ่งที่เดอะค็อปทั่วโลกจะต้องจับตาและลุ้นไม่น้อยไปกว่าการเบียดลุ้นแชมป์อีก 3 รายการที่ยังมีความหวังในฤดูกาลนี้

อ้างอิง: