เมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาแพลตฟอร์มบล็อกเชน เช่น Polygon และ Circle ต่างชิงตัว ‘หัวกะทิด้านเทคโนโลยี’ ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google, Facebook และ Amazon โดยดึงดูดความสนใจพวกเขาด้วยระดับการทำงานใน ‘สิ่งที่ยิ่งใหญ่’ ถัดไปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีนั้นคือ Web 3.0
Ryan Wyatt เพิ่งลาออกจาก YouTube เมื่อต้นเดือนนี้ เพื่อเป็นมาเป็นแม่ทัพสตูดิโอเกมแห่งใหม่จาก Polygon Wyatt โดยก่อนหน้านี้เขาได้เข้าทำงานกับยักษ์ใหญ่ด้านวิดีโอในปี 2014 เพื่อผลักดันเนื้อหาวิดีโอเกมและแข่งขันอย่างดุเดือดกับแพลตฟอร์ม Twitch ของ Amazon
“เมื่อฉันเริ่มต้นที่ YouTube Gaming เมื่อเกือบแปดปีที่แล้ว ฉันเป็นคนแรกที่อยู่ที่นั่น” Wyatt บอกกับ CNBC ในการให้สัมภาษณ์ “เราไม่มีทีม ผู้คนเริ่มแสดงความสนใจในวิดีโอเกมจริงๆ” โดยเหตุผลที่เขาลาออกนั้นเป็นเพราะมองเห็นโอกาสในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการพัฒนาบล็อคเชนกำลัง ‘เร็ว’ และ ‘น่าตื่นเต้น’
ขณะเดียวกันยังมีบรรดาหัวกะทิใน Silicon Valley ได้เข้าร่วมกับบริษัทคริปโต ไม่ว่าจะเป็น Sherice Torres อดีตประธานเจ้าหน้าที่การตลาดของ Facebook ซึ่งได้รับการว่าจ้างจาก Circle ในเดือนมกราคม และผู้บริหารระบบคลาวด์ของ Amazon อย่าง Pravjit Tiwana ได้เข้าร่วมบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต Gemini ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้บริหารด้านเทคโนโลยีกำลังถูกดึงดูดเข้าสู่อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่ง“โดยธรรมชาติแล้ว ผู้คนจะต้องการทำงานกับสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นและสร้างสรรค์ที่สุดในพื้นที่เทคโนโลยี และในปัจจุบันนั่นคือคริปโต และ Web 3.0” Alex Bouaziz ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์บัญชีเงินเดือน Deel กล่าวกับ CNBC
“หลายคนมองว่ามันเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่นเดียวกับที่ Facebook และ Amazon นั้นน่าสนใจในอดีต”
นอกจากนี้มีอีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดผู้มีความสามารถจากบริษัท Big Tech ให้มาที่ Web 3.0 นั้นคือผลตอบแทนอย่าง ‘เงิน’ ตามข้อมูลจาก Blind เครือข่ายโซเชียลสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบุว่า บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโต Coinbase เสนอให้วิศวกรซอฟต์แวร์มากถึง 900,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว 29 ล้านบาท
การลงทุนในบริษัทคริปโตเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีเงินสดเหลือเฟือสำหรับแพ็กเกจค่าตอบแทนที่สูงสำหรับดึงคนที่ทีความสามารถ โดยสตาร์ทอัพบล็อกเชนได้ระดมทุนป็นประวัติการณ์ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ตามตัวเลขของ CB Insights
ในช่วงก่อตั้ง บริษัทต่างๆ มักจะให้พนักงานเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทผ่านการให้หุ้น ด้วยการประเมินมูลค่าของบริษัทคริปโตที่พุ่งสูงขึ้น นั่นหมายความว่าพนักงานรุ่นแรกๆ มีสิทธิ์ที่จะเข้าแถวรับเงินก้อนโตในกรณีที่มีการเข้าซื้อกิจการ หรือเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปในเบื้องต้น
และเทรนด์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับสหรัฐฯ เท่านั้น แต่บริษัทจัดหางาน Hays กล่าวว่าเห็นบริษัทคริปโตต่างตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดผู้มีความสามารถจาก Facebook, Amazon และ Apple ในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP