‘จัสมิน เทคโนโลยี’ หรือ JTS โชว์กำไรไตรมาส 4/64 รวมกว่า 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% เผยส่วนหนึ่งจากรายได้เหมืองขุด Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น 100% หรือขุดได้ราว 6.77 เหรียญบิทคอยน์ (BTC) คิดเป็นมูลค่ากว่า 12.3 ล้านบาท เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 3,300 ล้านบาท หวังเพิ่มจำนวนเครื่องขุดเป็น 8,100 เครื่อง
ดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น (JTS) รายงานผลการดำเนินงานผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในไตรมาส 4/64 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 70.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) 30.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 74.41%
ส่วนผลดำเนินงานทั้งปี 2564 มีกำไรสุทธิจำนวน 273.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.50 ล้านบาท โดยมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทเพิ่มขึ้น 177 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 700.82%
สำหรับกำไรช่วงไตรมาส 4/64 ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นราว 93.08 ล้านบาท เป็นจำนวน 516.69 ล้านบาท ซึ่งรายได้ดังกล่าวแบ่งเป็น
- รายได้จากธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม 40.24 ล้านบาท ลดลง 3.25 ล้านบาท หรือ 7.47%
- รายได้จากธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม 444.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.04 ล้านบาท คิดเป็น 5.97%
- รายได้จากธุรกิจจัดหา ออกแบบ และวางระบบคอมพิวเตอร์ 17.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.30 ล้านบาท คิดเป็น 44.66%
- รายได้จากธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin 6.77363789 เหรียญบิทคอยน์ (BTC) คิดเป็นเงิน 12.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100%
- รายได้อื่น 2.32 ล้านบาท ลดลง 0.74 ล้านบาท คิดเป็น 24.18%
ส่วนต้นทุนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารในไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้น 48.66 ล้านบาท คิดเป็น 12.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งต้นทุนขายและบริการที่เพิ่มขึ้นประกอบด้วย
- ต้นทุนขายและบริการ 383.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.49 ล้านบาท คิดเป็น 2.27%
- ค่าใช้จ่ายและบริหาร 41.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.61 ล้านบาท คิดเป็น 34.80% เนื่องจากการจ่ายผลตอบแทนพนักงานประจำปี
สำหรับเป้าหมายและแผนธุรกิจในปี 2565 นั้น เนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด (JesTel) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้เข้าลงทุนในธุรกิจเมืองขุด Bitcoin ซึ่งได้มีการอนุมัติจัดซื้อเครื่องขุด Bitcoin ที่มีพลังประมวลผลสูง 1,725 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin จำนวนรวมทั้งสิ้น 437.31 ล้านบาท
โดย ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนเครื่องขุด Bitcoin ที่ติดตั้งแล้วเสร็จจำนวน 315 เครื่อง ส่วนจำนวนเครื่องขุด Bitcoin ที่เหลือจะทยอยส่งมอบในปี 2565
ส่วนแผนลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin ปี 2565 จะทำให้จำนวนเครื่องขุดของบริษัทรวมอยู่ที่ 8,100 เครื่อง โดยมีระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,300 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาอนุมัตินั้น การลงทุนเพิ่มเติมในปี 2565 ดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการขุด Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้าน Terrahash/s ซึ่งจะทำให้กลุ่มบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin รายใหญ่สุดในประเทศไทย โดยจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาว
ธุรกิจออกแบบและวางระบบสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจจัดหา ออกแบบ และวางระบบคอมพิวเตอร์ ยังเป็นธุรกิจหลักที่ทางกลุ่มบริษัทตั้งเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคลขนาดใหญ่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
