×

Uncharted กับ 5 เกร็ดน่าสนใจของเกมแอ็กชันผจญภัยยอดฮิตสู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์

03.02.2022
  • LOADING...
Uncharted

Uncharted แฟรนไชส์เกมแอ็กชันผจญภัยจากค่ายผู้พัฒนา Naughty Dog ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์เกมยอดฮิตที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งในแง่ของยอดขายและคำวิจารณ์ จนได้รับการสร้างภาคต่อและภาคเสริมออกมาให้แฟนเกมได้ติดตามอย่างต่อเนื่องถึง 15 ปี

 

และตอนนี้ เรื่องราวการผจญภัยของนักล่าสมบัติมาดเท่อย่าง Nathan Drake ในฉบับของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ได้สองนักแสดงมากฝีมืออย่าง Tom Holland และ Mark Wahlberg มาร่วมล่าสมบัติสุดขอบโลก ก็กำลังจะเข้าฉายให้แฟนๆ ได้ชมกันแล้วในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

THE STANDARD POP จึงถือโอกาสชวนทุกคนมาร่วมย้อนชม 5 เกร็ดน่าสนใจของ Uncharted แฟรนไชส์เกมแอ็กชันผจญภัยยอดฮิตสู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กันอีกครั้ง 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

 

Uncharted

 

  1. จุดเริ่มต้นของ Uncharted เกมแอ็กชันผจญภัยที่มีแก่นกลางคือเนื้อเรื่องและตัวละคร

 

ย้อนกลับไปในปี 2005 ค่ายผู้พัฒนาเกม Naughty Dog ที่มีชื่อเสียงจากแฟรนไชส์เกม Crash Bandicoot และ Jak and Daxter ได้ริเริ่มไอเดียในการสร้างผลงานเกมใหม่ภายใต้ชื่อโปรเจกต์ว่า Big ที่จะลงให้กับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ ณ ขณะนั้นอย่าง PlayStation 3 โดยจะมีตัวละครหลักเป็นมนุษย์ซึ่งแตกต่างไปจากสองแฟรนไชส์ก่อนหน้า และจะมาพร้อมกับสไตล์เกมแอ็กชันผจญภัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง Indiana Jones โดยทางผู้พัฒนาได้ตั้งเป้าหมายว่า จะผลักดันโปรเจกต์ Big ให้เป็นเกมที่สามารถตีตลาดในระดับโลกได้ 

 

Naughty Dog เริ่มต้นการพัฒนาโดยเลือกโฟกัสไปที่การออกแบบตัวละครและเนื้อเรื่องเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างไปจากการพัฒนาเกมแนวแอ็กชันผจญภัยหลายๆ เกมที่มักจะเน้นไปที่ระบบการเล่นเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวที่ตัวละครต้องเผชิญ ตั้งแต่การออกแบบคาแรกเตอร์ที่สมจริงสมจัง รายละเอียดการแสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้าของตัวละคร ไปจนถึงเนื้อเรื่องของเกมที่เข้มข้นและชักชวนให้ผู้ชมติดตาม เสมือนว่าผู้เล่นกำลังชมภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยเรื่องหนึ่ง

 

ด้านตัวละครหลักของเกมอย่าง Nathan Drake ทาง Naughty Dog ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนมาจากนักแสดงชื่อดัง Johnny Knoxville ซึ่งมีบุคลิกท่าทางที่สนุกสนานและตลกขบขัน นอกจากนี้เนื่องจากโปรเจกต์ Big เป็นผลงานแรกที่ Naughty Dog เลือกนำระบบ Motion Capture มาใช้ในการพัฒนา ดังนั้นในขั้นตอนการคัดเลือกนักพากย์ ทางผู้พัฒนาจึงต้องค้นหาคนที่มีน้ำเสียงและการแสดงที่เข้ากับตัวละคร จนในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับ Nolan North ผู้มีน้ำเสียงที่สนุกสนาน เจ้าเล่ห์ และจริงจัง รวมถึงการแสดงที่เข้าถึงบทบาท ทางผู้พัฒนาจึงตัดสินใจเลือก Nolan North มารับบทเป็น Nathan Drake จากการคัดเลือกนักแสดงถึง 30 คน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ Nolan North และนักแสดงทุกคนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาตัวละครอีกด้วย 

 

  1. เรื่องราวการล่าสมบัติของ Nathan Drake กับความสำเร็จที่มาจากความใส่ใจในทุกรายละเอียด

 

หลังจาก Naughty Dog ซุ่มพัฒนาเกมใหม่อย่างพิถีพิถันมานานกว่า 2 ปี ทางผู้พัฒนาก็ได้เปิดตัวเกมที่ชื่อว่า Uncharted: Drake’s Fortune ออกมาอย่างเป็นทางการในปี 2007 โดยผู้เล่นจะได้ออกผจญภัยไปพร้อมกับ Nathan Drake ชายหนุ่มที่ออกตามหานครทองคำ El Dorado ผ่านเบาะแสที่ถูกทิ้งไว้ของ Sir Francis Drake นักสำรวจชื่อก้องและเป็นบรรพบุรุษของ Nathan Drake โดยมี Victor Sullivan หรือ Sully ผู้เป็นทั้งอาจารย์และคู่หูล่าสมบัติ พร้อมด้วย Elena Fisher นักข่าวสาวที่จะมาช่วยเหลือผู้เล่นตามหาสมบัติ 

 

Uncharted: Drake’s Fortune นับว่าเป็นการเปิดแฟรนไชส์เกมใหม่จากค่าย Naughty Dog ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เล่นอย่างล้นหลาม จนได้รับการสร้างเกมภาคต่อและภาคเสริมมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Uncharted 2: Among Thieves (2009), Uncharted 3: Drake’s Deception (2011), Uncharted 4: A Thief’s End (2016), Uncharted: The Lost Legacy (2017) ฯลฯ โดยในปี 2017 แฟรนไชส์ Uncharted สามารถทำยอดขายรวมทั่วโลกไปได้สูงกว่า 41.7 ล้านก๊อบปี้ รวมถึงได้รับรางวัลจากเวทีต่างๆ มาแล้วหลายรางวัล เช่น Uncharted 4: A Thief’s End ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล The Game Awards ถึง 8 สาขา และสามารถคว้ารางวัลมาได้ 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่ Best Narrative และ Best Performance (Nolan North)

 

หัวใจสำคัญที่ส่งให้ Uncharted กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์เกมที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก คือองค์ประกอบของเกมแอ็กชันผจญภัยที่ถูกสร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการไขปริศนาที่เข้ามาช่วยสร้างสีสันให้แก่ผู้เล่น ระบบการต่อสู้สุดผาดโผนที่สนุกสนานและลุ้นระทึก การปืนป่ายสิ่งก่อสร้างที่นำมาปรับใช้กับฉากแอ็กชันได้อย่างลงตัว มนต์เสน่ห์ของตัวละครหลักอย่าง Nathan Drake ที่มีความสมบุกสมบันและมีความเจ้าเล่ห์ เหล่าสัตว์ประหลาดโบราณเหนือจินตนาการ 

 

ไปจนถึงเนื้อเรื่องซึ่งถือเป็นแกนหลักสำคัญของ Uncharted ที่ไม่ได้มีดีแค่การหาสมบัติเพียงอย่างเดียว แต่ยังชวนผู้เล่นไปร่วมติดตามพัฒนาการของ Nathan Drake ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละภาค ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ รวมถึงความสัมพันธ์ของ Nathan Drake และตัวละครรอบข้างที่มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งหมดนี้จึงส่งให้ Uncharted กลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่แฟนเกมต่างหลงรักไปทั่วโลก และยืนหยัดสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้เล่นมายาวนานกว่า 15 ปี 

 

 

  1. การผจญภัยจากเครื่องเกมคอนโซลสู่จอภาพยนตร์ที่ใช้เวลากว่า 10 ปี

 

หลังจาก Uncharted: Drake’s Fortune เริ่มออกวางจำหน่ายและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ในปี 2008 ทาง Sony Pictures ก็เริ่มต้นโปรเจกต์ดัดแปลง Uncharted ให้เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทันที แต่ตลอดช่วงเวลาการพัฒนา ภาพยนตร์ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้กำกับอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น David O. Russell จาก American Hustle (2013), Shawn Levy จาก Real Steel (2011), Dan Trachtenberg จาก 10 Cloverfield Lane (2016) รวมถึง Travis Knight จาก Bumblebee (2018) ฯลฯ จึงทำให้ Uncharted ฉบับภาพยนตร์ที่ในตอนแรก Sony Pictures ได้วางกำหนดฉายเอาไว้ในปี 2016 ต้องถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง

 

กระทั่งในปี 2020 ภาพยนตร์ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง เมื่อทาง Sony Pictures ได้ยืนยันว่าภาพยนตร์จะได้ Ruben Fleischer เจ้าของผลงานอย่าง Zombieland (2009) และ Venom (2018) มานั่งแท่นผู้กำกับ และเริ่มต้นการผลิตในที่สุด

 

นอกจากชื่อของ Ruben Fleischer แล้ว ภาพยนตร์ยังได้ทีมงานเบื้องหลังมากฝีมือมาร่วมสร้างสรรค์การผจญภัยครั้งนี้ นำโดยสองมือเขียนบทอย่าง Art Marcum และ Matt Holloway จาก Iron Man (2008) มาร่วมดัดแปลงเรื่องราวจากวิดีโอเกมสู่จอภาพยนตร์, Ramin Djawadi คอมโพสเซอร์มากฝีมือจากซีรีส์ Game of Thrones มารับหน้าที่ประพันธ์ดนตรีประกอบ, Chung-hoon Chung ผู้กำกับภาพชาวเกาหลีใต้จาก The Handmaiden (2016) และ It (2017), Chris Lebenzon มือตัดต่อดีกรีเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Top Gun (1986) และ Shepherd Frankel โปรดักชันดีไซต์จาก Ant-Man (2015) มาร่วมรังสรรค์ฉากขุมทรัพย์โบราณ

 

Uncharted ยังเป็นผลงานการผลิตภาพยนตร์เรื่องแรกของ PlayStation Productions สตูดิโอโปรดักชันที่ก่อตั้งโดย Sony Interactive Entertainment ซึ่งมีเป้าหมายในการผลักดันวิดีโอเกมของตนเองมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และซีรีส์อีกด้วย

 

 

  1. Tom Holland และ Mark Wahlberg สองนักแสดงมากฝีมือที่จะมาสวมบทเป็นคู่หูนักล่าสมบัติ

 

นอกจากรายชื่อผู้กำกับที่ถูกปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง การคัดเลือกนักแสดงที่จะมาสวมบทเป็นตัวละครหลักอย่าง Nathan Drake ก็มีรายชื่อของนักแสดงที่ถูกวางตัวให้มารับบทนี้ รวมถึงนักแสดงที่แฟนเกมอยากให้มารับบทอยู่หลายคนเช่นกัน 

 

ตั้งแต่ Nathan Fillion ผู้ที่เคยรับบทเป็น Nathan Drake ในฉบับภาพยนตร์ขนาดสั้นความยาว 14 นาที ที่เกิดขึ้นจากแคมเปญของแฟนเกมในปี 2018, Brett Dalton จากซีรีส์ Agents of S.H.I.E.L.D. (2013), Jensen Ackles จากซีรีส์ Supernatural (2005), Chris Pine จาก Star Trek ฉบับภาพยนตร์ไตรภาค และ Wonder Woman (2017), Chris Pratt จาก Guardians of the Galaxy (2014), Zachary Levi จาก Shazam! (2019) ไปจนถึง Mark Wahlberg จาก The Fighter (2010) และ Deepwater Horizon (2016)

 

ในท้ายที่สุด บทบาทนักล่าสมบัติคนนี้ก็ตกเป็นของ Tom Holland นักแสดงหนุ่มที่แฟนๆ MCU รู้จักเขาเป็นอย่างดีจาก Spider-Man ไตรภาคล่าสุด ขณะที่ Mark Wahlberg จะมารับบทเป็น Sully ชายผู้เป็นทั้งอาจารย์และคู่หูของ Nathan Drake 

 

นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังได้ Sophia Ali จากซีรีส์ Grey’s Anatomy (2005) มารับบทเป็น Chloe Frazer นักล่าสมบัติสาวที่ปรากฏตัวครั้งแรกในเกมภาค  Uncharted 2: Among Thieves พร้อมด้วย Antonio Banderas จาก The Mask of Zorro (1998) มาสวมบทเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้ 

 

  1. เรื่องย่อและสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมต้นฉบับ

 

สำหรับเนื้อเรื่องของ Uncharted ฉบับภาพยนตร์ ได้รับแรงบันดาลใจหลักมาจากตัวเกมภาค Uncharted 4: A Thief’s End ซึ่งตัวนักแสดงนำอย่าง Tom Holland เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เป็นภาคที่เขาชื่นชอบมากที่สุด อีกทั้งเนื้อเรื่องในภาพยนตร์จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเกมภาค Uncharted: Drake’s Fortune

 

ภาพยนตร์จะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Nathan Drake (Tom Holland) ในวัยหนุ่มที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ณ บาร์แห่งหนึ่ง กระทั่งเขาได้มาพบกับ Sully ( Mark Wahlberg) ที่ชักชวนให้มาร่วมมือกันตามหาสมบัติที่หายสาบสูญของ Ferdinand Magellan นักสำรวจในตำนาน นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าการตามหาสมบัติดังกล่าวจะมีส่วนเชื่อมโยงกับ Sam Drake พี่ชายที่หายตัวไป เขาจึงตกลงร่วมมือกับ Sully ในการตามหาขุมสมบัติที่ไม่เคยมีใครหาพบ ไปพร้อมกับการตามหาเบาะแสของพี่ชาย  

 

โดยหลังจากทาง Sony Pictures ได้ปล่อยตัวอย่างออกมา ก็มีแฟนเกม Uncharted ออกมาพูดถึงเนื้อหาของภาพยนตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากตัวเกมต้นฉบับ เช่น ในฉบับภาพยนตร์ สถานที่ที่ Nathan Drake และ Sully ได้มาพบกันครั้งแรกคือบาร์ในงานปาร์ตี้แห่งหนึ่ง โดย Nathan Drake กำลังทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ ในขณะที่ตัวเกมต้นฉบับ Nathan Drake และ Sully ได้พบกันครั้งแรกในพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในประเทศโคลอมเบีย อีกทั้งสมบัติที่พวกเขาร่วมกันตามหาก็มีความแตกต่างกัน รวมถึงฉากแอ็กชันบนเครื่องบินที่ปรากฏในตัวอย่าง ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตัวเกมภาค Uncharted 3: Drake’s Deception ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันอีกด้วย

 

แฟนๆ ของ Uncharted คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่า ภาพยนตร์จะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของตัวเกมต้นฉบับมากน้อยขนาดไหน รวมถึงจะสามารถนำเสนอฉากแอ็กชันที่สนุกสนานออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเช่นเดียวกับตัวเกมต้นฉบับได้หรือไม่

 

Uncharted มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising