Visa ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านบัตรชั้นนำระดับโลกเผยข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นไตรมาสแรกหลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซี โดยข้อมูลจากรายงานพบว่า การใช้จ่ายด้วยคริปโตผ่านบัตร Visa มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
รายงานระบุว่า บัตร Visa ที่ลูกค้าเชื่อมต่อหรือผูกไว้กับพาร์ตเนอร์แพลตฟอร์มคริปโต ซึ่งรวมถึงรายใหญ่อย่าง Coinbase และ BlockFi มีการใช้จ่ายสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.5 หมื่นล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 70% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรประเภทดังกล่าวตลอดปี 2021 ขณะที่ปัจจุบันมีการออกบัตรที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มคริปโตครอบคลุมแล้วมากกว่า 65 ราย
ก่อนหน้านี้ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทาง Visa เพิ่งจะมีการเปิดตัวบริการชำระเงินผ่านบัตรด้วยคริปโต คาย เชฟฟิลด์ (Cuy Sheffield) หัวหน้าฝ่ายคริปโตของ Visa กล่าวอย่างมั่นใจว่า Visa จะต้องมีบทบาทสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างธนาคารและระบบนิเวศของคริปโต
ด้าน วสันต์ ปราภู (Vasant Prabhu) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Visa ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ระบุว่า การเติบโตที่รวดเร็วนี้เป็นสัญญาณชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเห็นประโยชน์ของการที่มีบัตร Visa เชื่อมโยงกับบัญชีของตนในแพลตฟอร์มคริปโต เพราะความสามารถในการเข้าถึงสภาพคล่อง หรือการใช้เป็นเงินทุนในการซื้อ หรือการจัดสรรปันส่วนการใช้จ่ายและความสะดวกสบายในการซื้อที่สามารถทำได้อย่างทันทีและราบรื่น ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่า
ทั้งนี้ นอกจากให้บริการชำระเงินผ่านบัตรด้วยคริปโตแล้ว Visa ยังมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพิ่มเติม พร้อมให้ความสนใจขยายบริการเข้าถึงตลาด NFT โดยมีรายงานว่า ทาง Visa ได้จับมือกับ ConsenSys ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการใหม่ๆ รอบเครือข่าย
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทาง Robinhood ได้ตั้งเป้าหมายเชิงรุกในการเปิดแพลตฟอร์มคริปโตให้กับลูกค้าทั่วโลกภายในปี 2022 โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโต และการเปิดให้บริการดังกล่าวยังเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่เพื่อให้ Robinhood สามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้มากขึ้น
เป้าหมายดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ทางบริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4 และผลประกอบการตลอดทั้งปี 2021 โดยรายรับสุทธิรวมของบริษัทในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันเมื่อปี 2020 มาอยู่ที่ 363 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่รายรับสุทธิตลอดปีทั้งหมดเพิ่มขึ้น 89% มาอยู่ที่ 1,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ด้านรายได้จากธุรกรรมของแพลตฟอร์มการซื้อขาย ซึ่งรวมถึงรายได้จากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอยู่ที่ 264 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 ขณะที่รายได้จากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะสกุลเงินดิจิทัล Robinhood พบว่า สกุลเงินดิจิทัลในไตรมาสล่าสุดนี้ขยับเพิ่มขึ้น 304% หรือ 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนการเติบโตในอัตรารายปีพบว่า ในปี 2021 เพิ่มขึ้นถึง 419 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิง:
- https://ambcrypto.com/visa-reports-meteoric-rise-in-crypto-linked-payments-volumes-cross-2-5-billion/
- https://news.bitcoin.com/robinhood-launch-crypto-trading-internationally-potential-crypto-economy/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP