สิ้นสุดการรอคอยของใครหลายคน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับเงินดอลลาร์ดิจิทัลที่เลื่อนมาหลายระลอก โดยการศึกษาได้สำรวจข้อดีและข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัลกลางที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) พร้อมเปิดโอกาสให้สาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเงินสกุลดิจิทัลของธนาคารกลางได้เข้ามาร่วมแสดงความเห็นเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม เอกสารรายงานจำนวน 40 หน้าของ Fed ในครั้งนี้ กลับหลีกเลี่ยงที่จะระบุถึงข้อสรุปใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลกลาง ซึ่งรวมถึงท่าทีของ Fed ว่าจะเดินหน้าเปิดตัวเงินดอลลาร์ดิจิทัลออกมาใช้เหมือนเช่นธนาคารกลางจีนหรือไม่ โดยเดิมรายงานดังกล่าวจะต้องเปิดเผยออกมาในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว (2021) แต่กลับเลื่อนออกไป ซึ่ง เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ให้เหตุผลว่ายังขาดข้อมูลบางอย่าง จึงต้องการเวลาเพิ่มเติมในการรวบรวมจัดทำ
สำหรับเนื้อหาภายในรายงานได้ให้ภาพรวมถึงประโยชน์ของสกุลเงินดิจิทัลอย่างละเอียด รวมถึงการช่วยเร่งให้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินไปได้อย่างสะดวกราบรื่นมากขึ้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่ธุรกรรมการเงินทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกดิจิทัล ขณะที่ข้อเสียที่รายงานของ Fed เอ่ยถึงคือ ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน และการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy) ของผู้ใช้งาน
ขณะเดียวกันตัวรายงานยังได้ระบุข้อเสนอแนะในการจัดเตรียมมาตรการกำกับดูแลและควบคุมทางกฎหมาย เพื่อป้องกันการฉ้อโกง หลอกลวง และการกระทำผิดทางอาญาอื่นๆ ที่สามารถใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นตัวอำนวยความสะดวกได้ ก่อนสรุปว่า CBDC หรือสกุลเงินดิจิทัลกลาง สามารถเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานระบบการเงินของสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงบทบาทความรับผิดชอบของธนาคารกลางและบรรดาธนาคารพาณิชย์ทั้งหลาย
ที่ผ่านมาพาวเวลล์มักสงวนท่าทีเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลกลาง โดยเป็นท่าทีที่นักวิเคราะห์ระบุว่าไม่ได้คัดค้านแต่ก็ไม่ได้สนับสนุน ตรงกันข้ามกับรองประธานคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงิน (FOMC) ของ Fed อย่าง เลล เบรนาร์ด ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลกลางอย่างเต็มที่ ขณะที่สมาชิก Fed ส่วนใหญ่ยังคงกังขาต่อประสิทธิภาพของเงินดอลลาร์ดิจิทัล เนื่องจากเห็นว่าผลประโยชน์ที่ได้รับยังขาดความชัดเจน
ทั้งนี้ความชัดเจนดังกล่าวหมายรวมถึงการที่เงินดอลลาร์ดิจิทัลจะเป็นสินทรัพย์ทางดิจิทัลของธนาคารกลางโดยตรง ต่างกับเงินดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบันซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ของภาคเอกชน ดังนั้นต่อให้ Fed จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แต่ผู้ฝากเงินบางรายอาจต้องการเก็บเงินดอลลาร์ดิจิทัลไว้ เนื่องจากมีความเสี่ยงในระดับต่ำ
รายงานระบุว่า ทาง Fed ยังได้เปิดให้สาธารณชนและผู้ส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นภายใน 120 วัน โดย Fed กล่าวว่า การรับฟังดังกล่าวเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้รายงานมีความสมบูรณ์ครอบคลุมมากขึ้น โดยการวิเคราะห์เบื้องต้นของ Fed ชี้ให้เห็นว่าหากสร้าง CBDC ของสหรัฐฯ ขึ้นมาใช้เอง ทางการสหรัฐฯ จะต้องมีระบบปกป้องความเป็นส่วนตัวและยืนยันตัวตนอย่างชัดเจน เพื่อให้เงินสกุลดอลลาร์ดิจิทัลเป็นตัวกลางถ่ายโอนการทำธุรกรรมได้อย่างกว้างขวางและปลอดภัย เป็นประโยชน์สูงสุด
อย่างไรก็ตาม ตัวรายงานยังระบุชัดว่าไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ที่ได้เป็นนโยบายที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งยังไม่มีจุดยืนต้องการเปิดตัวสกุลเงินดอลลาร์ดิจิทัลออกมาใช้งานในขณะนี้ และระบุว่า Fed กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ ‘บริการชำระเงินและค่าใช้จ่ายตลอด 24 ชั่วโมง’ ที่เรียกว่า Fed Now ซึ่งน่าจะออกสู่โลกออนไลน์ได้ภายในปี 2023
ขณะที่พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่ Fed ส่วนหนึ่งปิดท้ายว่า Fed ไม่ได้เร่งรีบที่จะออกสกุลเงินดิจิทัลกลาง เพราะการดำเนินการให้ถูกต้องมีความสำคัญมากกว่าการเร่งดำเนินการให้เร็ว โดยการเปิดตัวของ CBDC จะแสดงถึงนวัตกรรมทางการเงินขั้นสูงของสหรัฐฯ ดังนั้นการปรึกษาหารือในวงกว้างกับสาธารณชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างรัดกุมจึงเป็นสิ่งจำเป็น และการจัดทำรายงานฉบับนี้เป็นเพียงก้าวแรกของการเริ่มต้นเท่านั้น และ Fed จะไม่ดำเนินการใดๆ หากไม่มีคำสั่งอนุมัติที่ชัดเจนจากทางสภาคองเกรส ซึ่งคำอนุญาตการออกเงินสกุลดิจิทัลกลางควรอยู่ในรูป ‘กฎหมายอนุญาตโดยเฉพาะ’
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP