ในโลกของความสัมพันธ์ เรามองเห็นพฤติกรรมใหม่ของผู้คนอยู่เรื่อยๆ เมื่อโลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน ทางเลือกในการสานความสัมพันธ์มีมากขึ้นกว่าเคย ปัจจัยภายนอกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกับพฤติกรรมของเราทั้งนั้น
สองปีที่ผ่านมาที่ทั่วโลกต่างต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด เป็นหนึ่งช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้คนอย่างชัดเจนทุกด้าน ในเรื่องของความสัมพันธ์ก็เช่นกัน ตัวเลขสถิติจากเดตติ้งแอปพลิเคชัน Tinder แสดงให้เห็นว่าผู้คนหันมาพึ่งพาแอปกันมากขึ้นเมื่อไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้เช่นเคย สถิติยังบอกอีกว่าการเลือกคุยโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล เป็นทางเลือกใหม่ที่ผู้คนนิยมมากกว่านัดพบตัวต่อตัวอย่างสมัยก่อน เพราะผู้ใช้งานจำนวนมากยังกลัวโรคระบาด หรือกระทั่งล่าสุด Bumble ก็เผยตัวเลขว่า คนสมัยนี้รักสุขภาพกันมากขึ้นและนิยมเปลี่ยนรูปแบบการเดตเป็นกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่การดื่มแอลกอฮอลล์ (Dry Dating) มากขึ้น
ในบรรดาพฤติกรรมใหม่และศัพท์ใหม่ที่เข้ามาให้เราได้เรียนรู้กัน ‘Oystering’ คือหนึ่งในเทรนด์ใหม่ล่าสุดที่เราว่าน่าสนใจมาก เพราะเป็นพฤติกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจาก Pop Culture ส่วนมันคืออะไร มาทำความรู้จักไปพร้อมๆ กัน
#Oystering คืออะไร
ส่วนตัวเราคิดว่า Oystering ไม่ใช่พฤติกรรมซะทีเดียว หากแต่เป็น ‘มุมมอง’ ใหม่ๆ ที่ผู้คนมีหลังจากที่ต้องจบความสัมพันธ์หนึ่งลง ในบทความ ‘Oystering’ is the empowering new dating trend that we’re totally here for’ เขียนโดย Anya Meyerowitz จากนิตยสาร Glamour อธิบายเอาไว้ว่า Oystering หมายถึงไอเดียที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้สึกต่อการกลับไปเป็นโสดอีกครั้งแทนที่จะจมอยู่กับความเศร้าเหมือนก่อน แต่ทุกวันนี้คนเรากลับรู้สึกว่าเขาต่างตื่นเต้นกับการได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างอิสระ ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ พร้อมเริ่มต้นกับการเดตคนใหม่ๆ และมองว่าโลกทั้งใบเปรียบเหมือนหอยนางรมสดจากทะเลที่พร้อมให้เราดื่มด่ำ
#ผลสำรวจบอกว่า
แอปพลิเคชัน Badoo เผยผลสำรวจในปีที่ผ่านมาว่า ผู้ใช้งานที่โสดกว่า 46% รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้กลับไปเริ่มต้นเดตอีกครั้ง และ 50% รู้สึกพร้อมกับปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงและเชื่อมั่นว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดี
#POP Culture ส่งผลกับเรื่องนี้อย่างไร
เราค่อนข้างเห็นด้วยกับ Anya ที่ยกตัวอย่างหนึ่งในอัลบั้มแห่งปีอย่าง 30 ของ Adele มาอธิบายเรื่องนี้ จริงอยู่ว่ามุมมองที่สร้างพลังแบบนี้ไม่ได้อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นมาเฉยๆ แต่เพลง ภาพยนตร์ หรือละคร ล้วนแล้วแต่มีส่วนปั้นพลังเหล่านี้ด้วยกันทั้งนั้น เช่นเดียวกับ Adele
อัลบั้ม 30 ของ Adele พูดถึงเรื่องราวหลังจากที่เธอได้ตัดสินใจเลิกกับสามี Simon Konecki และการที่เธอสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ สู่วันที่เธอนิยามว่าเธอสมบูรณ์แบบและเป็นตัวเองมากที่สุด สิ่งเหล่านี้เป็นการเดินทางของความรู้สึกที่เราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์เดินทางผ่าน เมื่อคุณเสียใจหรือสูญเสียคนที่รัก คุณมีสิทธิ์ที่จะใช้เวลาโอบกอดความรู้สึกเหล่านั้นและซ่อมแซมตัวเองให้สมบูรณ์อีกครั้ง การเดตหรือการเริ่มต้นใหม่จะไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นการที่เรากลับมาแข็งแรงและเห็นถึงสิ่งที่โลกใบนี้ยังมีให้ประสบอีกมาก เช่นเดียวกับที่ Adele กลับมาพร้อมอัลบั้มนี้ของเธอ
สรุปง่ายๆ คือ ‘Oystering’ คือเทรนด์การเดตที่บอกกับเราว่า เมื่อต้องเลิกกับคนรัก หยุดเปิดเพลงเศร้า เดินตากฝน และจมอยู่กับอดีต แต่เมื่อร้องไห้จนพอ โยนชุดนอนทิ้งไป ปิดเพลงอกหัก แล้วลุกขึ้นมาแต่งตัวให้สดใส มองท้องฟ้าและสร้างพลังให้ตัวเองด้วยท่อน “I’ve never seen the sky this colour before, it’s like I’m noticing everything a little bit more” จากเพลง Strangers By Nature แทน
อ้างอิง: