อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก เปิดเผยวานนี้ (10 มกราคม) ว่าเขาติดเชื้อโควิดเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ยืนยันผลตรวจเชื้อเป็นบวก โดยมีอาการไม่รุนแรง และจะยังคงทำงานต่อไปในระหว่างที่แยกกักตัวจนกว่าจะหายดี
ประธานาธิบดีโลเปซ โอบราดอร์ วัย 68 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงและเคยมีอาการหัวใจวายมาแล้วในปี 2013 เคยตรวจพบว่าติดโควิดครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว แต่ไม่มีอาการรุนแรง ซึ่งในการแถลงข่าววานนี้พบว่าเสียงของเขาเริ่มแหบแห้ง แต่เขายืนยันว่าไม่มีอาการรุนแรง และจะเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมหลังจากนั้น
“แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรง แต่ผมจะยังคงแยกกักตัวและจะทำงานและสื่อสารกันผ่านระบบเสมือนจริงเท่านั้นจนกว่าจะหายดี” เขากล่าว
ทั้งนี้ ทางการเม็กซิโกยืนยันว่า โลเปซ โอบราดอร์ ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของ AstraZeneca แล้วตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ซึ่งหลังจากนี้ อาดัน ออกุสโต โลเปซ รัฐมนตรีมหาดไทย จะรับหน้าที่แทนผู้นำเม็กซิโกในการแถลงข่าวรอบเช้าและภารกิจทางการอื่นๆ
ที่ผ่านมา โลเปซ โอบราดอร์ นั้นตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการรับมือสถานการณ์โควิด โดยหลายฝ่ายชี้ว่าเขามองข้ามความร้ายแรงของโควิดในช่วงที่สถานการณ์ระบาดทวีความรุนแรงในระยะแรก และแทบไม่เคยสวมหน้ากากอนามัยระหว่างปรากฏตัวต่อสาธารณชน อีกทั้งยังไม่มีการกำหนดมาตรการเข้มงวดใดๆ ในการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของนักเดินทาง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่โลเปซ โอบราดอร์ มุ่งเน้นมาตลอดคือการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ซึ่งในปัจจุบันพบว่าประชาชนกลุ่มผู้ใหญ่ในกรุงเม็กซิโกซิตี้เกือบทั้งหมดได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแล้วอย่างน้อย 2 เข็ม
ภาพ: Photo by Hector Vivas/Getty Images
อ้างอิง: