×

‘สรรพากร’ เชิญแพลตฟอร์มเทรดคริปโต ถกประเด็นภาษี 10 ม.ค. นี้ ด้าน Bitazza ห่วงนักลงทุนโยกใช้บริการต่างประเทศทำไทยเสียโอกาส

09.01.2022
  • LOADING...
แพลตฟอร์มเทรดคริปโต

ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงอย่างเข้มข้นในโลกคริปโตเคอร์เรนซีของไทยเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีกำไรจากเงินลงทุน (Capital Gain) และภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราส่วน 15% ล่าสุด กรมสรรพากรได้เชิญตัวแทนผู้เกี่ยวข้องเข้าหารือในวันพรุ่งนี้ (10 มกราคม) เพื่อทำความเข้าใจและหาทางออกที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย

 

กวิน พงษ์พันธ์เดชา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด (Bitazza) หนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีของไทย กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่าบริษัทจะเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวอยากได้ความชัดเจนถึงวิธีการคิดภาษีว่าคิดอย่างไร รวมทั้งความสมเหตุสมผลของการบังคับใช้กฎหมายอยู่ที่ตรงไหน 

 

“เข้าใจว่าในอนาคตบริษัทอาจต้องทำหน้าที่ในการหักภาษี ณ ที่จ่าย จึงอยากทราบว่าจะบังคับใช้อย่างไร เมื่อคริปโตเป็นสินทรัพย์ที่ Global ซื้อขายกันทั่วโลก สมมติว่าลูกค้าซื้อในแพลตฟอร์มต่างประเทศ แต่โอนมาขายที่เรา ทางเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้ามีต้นทุนเท่าไร ซึ่งลูกค้าก็ต้อง Declare กับสรรพากรอยู่แล้ว ทำไมแพลตฟอร์มจึงต้องทำหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย เพราะเมื่อลูกค้าต้อง Declare เราก็ต้องเชื่อเขาอยู่ดี”

 

ส่วนเรื่องภาษีกำไรจากเงินลงทุน ยอมรับว่ามีบางประเทศที่เก็บภาษีในส่วนนี้ แต่เขาสามารถนำส่วนที่ขาดทุนมาหักได้ด้วย ซึ่งต่างกับไทยที่นับเฉพาะธุรกรรมที่มีกำไร จึงดูไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ลงทุนมากนัก เพราะตัวผู้ลงทุนเองก็ต้องรับความเสี่ยง เมื่อมีกำไรต้องเสียภาษี แต่พอขาดทุนกลับไม่ได้อะไร เรื่องนี้หลายคนมองว่าหากเอาผลขาดทุนมานับรวมด้วย นักลงทุนก็น่าจะยอมรับได้

 

กวินกล่าวว่าอีกประเด็นที่กังวล คือการเก็บภาษีลักษณะนี้ทำให้ผู้ลงทุนเริ่มที่จะโยกเงินลงทุนไปยังแพลตฟอร์มอื่นในต่างประเทศบ้างแล้ว จึงห่วงว่าในอนาคตนักลงทุนจะเลิกเทรดในประเทศกันหมด ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่แพลตฟอร์มไทยจะต้องสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้แพลตฟอร์มอื่นในต่างประเทศ ทั้งยังทำให้เงินไหลออกนอกประเทศด้วย

 

“เวลานี้นักลงทุนเขาก็เทรดไปมาระหว่างต่างประเทศกับไทยอยู่แล้ว ผมคิดว่าหากเราสามารถเอาทุกอย่างมาอยู่ในประเทศแล้วทำให้เกิดความยุติธรรม อย่างน้อยตลาดในประเทศก็น่าจะเติบโตได้”

 

สำหรับมูลค่าการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ลดลงในช่วงนี้ กวินยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากบรรยากาศการลงทุนที่ซบเซาลงหลังราคาเหรียญคริปโตต่างปรับตัวลดลง แต่ส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลจากข่าวเรื่องภาษีคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มที่จะโยกเงินไปเทรดกับแพลตฟอร์มอื่นในต่างประเทศบ้างแล้ว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising