Starling หนึ่งในธนาคารดิจิทัลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ประกาศบอยคอตการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของ Meta ทั้ง Facebook และ Instagram โดยให้เหตุผลว่า Meta ล้มเหลวในการปกป้องผู้บริโภคจากการโฆษณาหลอกลวงของมิจฉาชีพทางการเงินบนแพลตฟอร์มของตัวเอง
แอน โบเดน (Anne Boden) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Starling ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่กว่า 2.7 ล้านราย และมี Goldman Sachs, Qatar Investment Authority และ Fidelity เป็นผู้ร่วมลงทุน กล่าวว่า Starling จะไม่ยอมเสียค่าโฆษณาให้กับ Facebook และ Instagram ที่ปล่อยปละละเลยให้เหล่าบรรดามิจฉาชีพทางการเงินสามารถลงโฆษณาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคซึ่งรวมถึงลูกค้าของธนาคารให้ลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินปลอมๆ ได้อีกต่อไป
“เราต้องการปกป้องลูกค้าและชื่อเสียงแบรนด์ของ Starling ดังนั้นเราจึงไม่สามารถลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มเดียวกับที่พวกมิจฉาชีพใช้เพื่อหลอกลวงเงินในกระเป๋าของลูกค้าเราและลูกค้าธนาคารอื่นๆ ได้” โบเดนกล่าว
ขณะเดียวกัน โบเดนยังเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษเอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย Online Safety Bill ซึ่งครอบคลุมการดูแลและเผยแพร่เนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่อาจส่งผลเชิงลบกับผู้บริโภค เช่น การหลอกให้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี และการนำรูปเซเลบริตี้มาตัดต่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับการหลอกลวงต่างๆ
โดยโบเดนยืนยันว่า Starling จะไม่กลับไปซื้อโฆษณาบน Facebook และ Instagram จนกว่า Meta จะแก้ปัญหาดังกล่าวได้
ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา Google เสิร์ชเอนจินชื่อดังของโลกได้ประกาศงดรับการซื้อโฆษณาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เว้นแต่กรณีที่ผู้ซื้อโฆษณาเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองจาก FCA ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับของอังกฤษเท่านั้น ขณะที่ Meta ก็มีการประกาศในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่าจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยคาดว่าจะนำมาตรการเดียวกับ Google มาใช้ในปีนี้
ล่าสุด โฆษกของ Meta ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNBC โดยยืนยันว่า บริษัทไม่มีนโยบายปล่อยปละให้มีการโฆษณาหลอกลวงทางการเงินบนทุกแพลตฟอร์ม และบริษัทได้ต่อสู้กับปัญหาดังกล่าวด้วยการปฏิเสธและบล็อกโฆษณาประเภทนี้ทันทีที่ตรวจจับได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อป้องกันผู้บริโภคจากบรรดามิจฉาชีพให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
อ้างอิง: