อินเดียประกาศใช้เคอร์ฟิวอีกครั้งในหลายเมืองสำคัญ หลังผู้ติดโควิดเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางโอไมครอนระบาด

วานนี้ (4 มกราคม) ทางการอินเดียประกาศใช้เคอร์ฟิวและยกระดับมาตรการรับมือโควิดอีกครั้งในหลายเมืองสำคัญ โดยเฉพาะเดลีและมุมไบในรัฐมหาราษฏระ หลังผู้ติดโควิดรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอน ซึ่งเป็นการระบาดระลอกที่สาม

โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วานนี้อยู่ที่ 37,379 ราย เพิ่มสูงขึ้น 5 เท่า ภายใน 1 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญคาดส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็วของเชื้อโอไมครอน ซึ่งเกือบ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในเดลีและมุมไบ ซึ่ง India Today ระบุว่า เดลีจะประกาศใช้ช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันศุกร์ ไปจนถึงเวลา 05.00 น. ของวันจันทร์ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายและติดโควิด

ทางการอินเดียเผย พบรายงานผู้ป่วยโควิดติดเชื้อโอไมครอนแล้วกว่า 1,700 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรัฐมหาราษฏระ อันเป็นที่ตั้งของเมืองมุมไบ (568 ราย) ตามมาด้วยเดลี (382 ราย) ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขของเดลีเผยว่า 81% ของตัวอย่างที่พบการติดเชื้อ เป็นเชื้อโอไมครอน

อินเดียเคยเผชิญการระบาดระลอกที่สาม ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีที่ผ่านมา ช่วงเชื้อเดลตาระบาดอย่างหนัก ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เคยพุ่งสูงกว่า 4 แสนรายภายในวันเดียว เดลีถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เคยเผชิญหน้ากับภาวะที่ระบบสาธารณสุขตึงมือในการรับมือกับสถานการณ์โควิดมาแล้ว โรงพยาบาลหลายแห่งขาดแคลนเตียงผู้ป่วย ถังออกซิเจน รวมถึงเตาเผาศพไม่สามารถรองรับจำนวนผู้เสียชีวิตได้ จนทำให้ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากต้องถูกเผา และประกอบพิธีทางศาสนาในพื้นที่โล่งกลางแจ้ง ก่อนที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดต่ำลงกว่า 1 หมื่นรายต่อวันในท้ายที่สุด

ในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ทางการจึงเร่งยกระดับมาตรการรับมือโรคระบาดนี้อีกครั้ง อินเดียมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 34.9 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 4.82 แสนราย พลเมืองราว 611 ล้านราย หรือคิดเป็น 44.79% ของพลเมืองทั้งประเทศเข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว เนื่องจากจำนวนประชากรที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ทางการอินเดียต้องเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดให้กับพลเมืองของตนโดยเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดและเชื้อที่อาจจะกลายพันธุ์อีกในอนาคต

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Anshuman Poyrekar / Hindustan Times via Getty Images

อ้างอิง: