ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงเรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกยกเลิกแผนการจัดงานเฉลิมฉลองในวันหยุดที่กำลังจะมาถึง เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุข ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดที่รวดเร็วของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในหลายประเทศทั่วโลก
“ยกเลิกจัดงาน ดีกว่าการเสียชีวิต” ดร.ทีโดรส กล่าว พร้อมชี้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากแต่ต้องทำ ซึ่งในบางกรณีอาจหมายถึงการยกเลิกหรือเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน ขณะที่ระบุว่าในตอนนี้มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าโอไมครอนนั้นแพร่ระบาดได้เร็วกว่าเดลตาอย่างมีนัยสำคัญ
ความเห็นของ ดร.ทีโดรส มีขึ้นในขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ หรือ CDC รายงานว่า โอไมครอนกำลังกลายมาเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ แทนที่เดลตา หลังพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนกว่า 73% ในผู้ติดเชื้อรายใหม่ และล่าสุดยังพบผู้เสียชีวิตจากโอไมครอนรายแรก เป็นชายในรัฐเท็กซัสที่เคยติดโควิดมาก่อนแต่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ทางด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เผยท่าทีเมื่อวานนี้ (20 ธันวาคม) ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนที่จะใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ แม้ว่า ดร.แอนโทนี เฟาซี ที่ปรึกษาระดับสูงด้านโรคติดเชื้อของทำเนียบขาว จะเตือนว่าการเดินทางของประชาชนในช่วงคริสต์มาสจะยิ่งส่งผลให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอนมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
ส่วนในสหราชอาณาจักร นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอาจนำมาตรการใหม่มาใช้เพื่อป้องกันการระบาดของโอไมครอนที่พุ่งสูง โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแล้วกว่า 45,000 คน ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (19 ธันวาคม) เพียงวันเดียว มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนมากกว่า 8,000 คน
ขณะที่ผลจากการแพร่ระบาดที่รวดเร็ว ทำให้นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนต้องประกาศยกเลิกการจัดงานฉลองปีใหม่ที่จัตุรัสทราฟัลการ์ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ซึ่งนอกจากนี้ยังมีหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส และเยอรมนี ที่ตัดสินใจเพิ่มการคุมเข้มมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิดและจำกัดการเดินทางของประชาชนในช่วงคริสต์มาส โดยเนเธอร์แลนด์นั้นได้เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงคริสต์มาสแล้ว ท่ามกลางความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโอไมครอน
ภาพ: Photo by Jaber Abdulkhaleg/Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: