การหารือเคร่งเครียดของพรีเมียร์ลีกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับการรับมือสถานการณ์โควิดที่กำลังระบาดอย่างหนักในเวลานี้ จบลงที่การยืนหยัดจะแข่งขันต่อในช่วงโปรแกรมส่งท้ายปีตามเดิม ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจ เมื่อนักเตะ 1 ใน 6 ของพรีเมียร์ลีกยังปฏิเสธจะเข้ารับวัคซีน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในเวลานี้
จากสถานการณ์การระบาดของโควิดที่รุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปถึง 10 นัดในช่วงไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และมีการตรวจพบจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 90 รายจากนักฟุตบอลและสตาฟฟ์ใน 20 สโมสร ทำให้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีกได้เรียกประชุมร่วมกับเจ้าของสโมสรและผู้จัดการทีมเกี่ยวกับการรับมือปัญหาที่เกิดขึ้น
ในประเด็นใหญ่ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือการเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ออกไปเพื่อหยุดสถานการณ์การระบาด เพราะแต่ละทีมเริ่มประสบปัญหาในการส่งผู้เล่นลงสนามเนื่องจากขาดทั้งตัวหลักและตัวสำรอง อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วทั้ง 20 สโมสรเห็นตรงกันที่จะแข่งขันต่อไปตามเดิม ไม่มีการเลื่อนการแข่งขันแต่อย่างใด
ประเด็นต่อมาที่กำลังเป็นที่จับตามองในเวลานี้คือเรื่องของการรับวัคซีนของนักฟุตบอล ซึ่งพรีเมียร์ลีกได้เปิดเผยว่ามีผู้เล่นมากถึง 16 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็น 1 ใน 6 คนที่ยังปฏิเสธการเข้ารับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ทำให้มีการหารือเกี่ยวกับระบบการคัดกรอง 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการระบาดของโรค
โดยในข้อเสนอจะให้มีการแยกนักฟุตบอลที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนให้เดินทางไปยังสนามแข่งแยกกับเพื่อน ต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มก่อนเข้าสนาม และห้ามรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนที่เข้ารับวัคซีนแล้ว เนื่องจากถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะนำเชื้อโควิดมาสู่เพื่อนร่วมทีมได้ โดยพรีเมียร์ลีกจะพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวและจะตัดสินใจอีกครั้ง
ขณะที่ตัวเลขของนักฟุตบอลที่เข้ารับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วอยู่ที่ 77 เปอร์เซ็นต์ อีก 84 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีน 1 เข็ม ซึ่งตัวเลขยังถือว่าน้อยกว่าลีกอื่นมากเมื่อเทียบกับเซเรีย อา อิตาลี ที่มีนักฟุตบอลเข้ารับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วถึง 98 เปอร์เซ็นต์
สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุด 90 รายนั้นสูงกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตรวจพบ 42 รายมากกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะแค่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 41 รายด้วยกัน โดยนักฟุตบอลและสตาฟฟ์จะต้องตรวจหาเชื้อแบบ Lateral Flow ทุกวัน และจะตรวจแบบ PCR สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
อ้างอิง: