‘เจ เวนเจอร์ส’ เตรียมเปิดซื้อขาย NFT ทั้งตลาดแรกและตลาดรองบน ‘JNFT Platform’ วันที่ 25 ธันวาคมนี้ หลังสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ครีเอเตอร์ และคริปโตคอมมูนิตี้ มาอย่างต่อเนื่อง หวังช่วยสร้างการเติบโตของวงการ NFT และสนับสนุนนักสร้างสรรค์และนักสะสม
ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ในฐานะผู้พัฒนา JNFT กล่าวว่า เจ เวนเจอร์ส ได้พัฒนา JNFT Platform ขึ้นและจะเปิดให้บริการทั้งในตลาดแรกและตลาดรองในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ในรูปแบบของ Marketplace หลังจากที่พัฒนาแพลตฟอร์มและให้ความรู้แก่นักสร้างสรรค์ผลงาน นักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง
“ในยุคดิจิทัลดิสรัปชันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของชีวิตประจำวัน รวมถึงงานศิลปะ เราจึงต้องการสนับสนุนให้นักสร้างสรรค์ชาวไทยมีโอกาสผลิตผลงานในรูปแบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น รวมถึงเป็นอีกช่องทางที่จะนำนักสะสมทั้งไทย และต่างชาติได้เข้าถึงผลงานศิลปะเหล่านั้นอย่างกว้างขวาง” ธนวัฒน์ กล่าว
โดย JNFT Marketplace สามารถซื้อ ขาย ประมูล ผลงานศิลปะที่เป็นดิจิทัล บนระบบบล็อกเชนแบบไร้ศูนย์ (Decentralized) ผ่านการยืนยันสิทธิ์แทนการเป็นเจ้าของด้วยเหรียญที่ไม่สามารถแทนค่าหรือทำซ้ำได้ (Non-Fungible Token) รองรับงานศิลปะที่เป็นไฟล์ดิจิทัล ได้แก่ รูปภาพความละเอียดสูงที่เป็นฟอร์แมต JPG หรือ PNG รูปภาพเคลื่อนไหวในฟอร์แมต GIF หรือ MP4
โดยจุดเด่นของแพลตฟอร์ม JNFT ได้แก่
- Local Community Global Buyer ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตลาดกลางของคนไทย ศิลปินไทย และผู้ชื่นชอบที่จะสะสมงานศิลปะ รวมไปถึงนักลงทุนจากทั่วโลก เข้ามามีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงผลงานศิลปะได้อย่างกว้างขวาง
- Professional Listing ด้วยการทำงานบนมาตรฐาน ERC721 เทียบเท่ากับแพลตฟอร์ม NFT ระดับโลก
- Low network Fee เนื่องจากแพลตฟอร์มพัฒนาบนบล็อกเชนของ Binance Smart Chain ที่มีความรวดเร็ว และมีค่าธรรมเนียมในการใช้งานราคาถูก
JNFT Marketplace เปิดให้นักสร้างสรรค์หรือครีเอเตอร์ ที่สนใจนำเสนอขายงานศิลปะ สมัครเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม JNFT ได้ด้วยตนเอง เพียงมีกระเป๋าเงินในระบบบล็อกเชน (Metamask) และเชื่อมต่อเข้าระบบ และยืนยันตัว ซึ่งทำได้ภายในไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถสร้างเหรียญ NFT เพื่อตั้งขายหรือเปิดประมูล และส่งมอบสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อได้
ซึ่ง JNFT ได้แบ่งกลุ่มของครีเอเตอร์ออกเป็น 1. Selected Artist 2. Corporate NFT และ 3. Open Market
โดยในส่วนของ Selected Artist ในการเปิดตัวชุดแรกนี้จะมีศิลปินจากหลากหลายสายทั้งนักร้อง นักแสดง และศิลปะ เข้าร่วมสร้างสรรค์ผลงาน NFT เป็นครั้งแรกของทุกคน
สำหรับ Corporate NFT เป็นการร่วมมือระหว่าง JNFT กับองค์กรธุรกิจที่จะสร้างสรรค์งาน NFT ระดับองค์กร ไม่ว่าจะเป็น บริษัท BECI Corporation จำกัด บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และ The Moon: Crypto & NFT Cafe ซีคอนสแควร์
ในส่วนของ Open Market เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักสร้างสรรค์ชาวไทยได้มีพื้นที่ขายงานมากขึ้น โดยช่วงแรกจะใช้รูปแบบ Authorization กับครีเอเตอร์ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมกับ JNFT และครีเอเตอร์ 3 อันดับแรกจากกิจกรรม JNFT Popular Vote 2021 ที่ได้จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นเดือนมกราคม 2565 จึงจะเริ่มเปิด Open Market สำหรับบุคคลทั่วไป
ด้าน Collectors หรือ ผู้สนใจซื้อ หรือประมูลงานศิลปะ สามารถเข้าใช้งาน JNFT ได้โดยใช้เพียงแค่มีกระเป๋าเงิน Metamask ทำให้สะดวก ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัวสูง ระบบ JNFT มอบทางเลือกในการแสดงความเป็นเจ้าของผู้ซื้อผลงานในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเปิดเผยหรือปกปิดตัวตน โดยแสดงเพียงบางส่วนของเลขกระเป๋าเงิน เพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของของผลงานนั้นๆ
ธนวัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าของแผนการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทมีแผนเข้าตลาดในปี 2567 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมและผลักดันรูปแบบธุรกิจให้มีรายได้และกำไรที่ดี
ปัจจุบัน เจ เวนเจอร์ ดำเนินธุรกิจ 4 ประเภทคือ ธุรกิจลงทุนในรูปแบบเวนเจอร์ แคปปิตอล, ธุรกิจให้บริการ Digital Platform ต่างๆ โดยปัจจุบันให้บริการอยู่ 5 แพลตฟอร์ม, ธุรกิจให้บริการด้าน Digitization ให้กับองค์กร ปัจจุบันให้บริการแก่ กลุ่มเจมาร์ท และธุรกิจให้คำปรึกษาด้าน Digital Transformation
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP