×

Binance Research เผย 6 เทรนด์คริปโตที่น่าจับตาในปี 2024

06.01.2024
  • LOADING...
Binance Research

ในระหว่างที่นักลงทุนคริปโตกำลังจับตาประเด็นการอนุมัติของ Bitcoin Spot ETF แต่ในขณะเดียวกัน พัฒนาการสำคัญที่เราได้เห็นในโลกคริปโตไม่ว่าจะเป็น Bitcoin DeFi Stablecoins และ NFT ก็สะท้อนแนวโน้มเชิงบวกของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล โดย Binance Research ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึก พร้อมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อจับทิศทางของโลกคริปโตในปี 2024 

 

เจี่ยซวน ชัว ผู้เชี่ยวชาญจากทีม Binance Research แสดงความคิดเห็นว่า “จากการที่เราทำการสังเกตการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2023 เรารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 ทั้งในเรื่องของ Bitcoin Halving การเปลี่ยนแปลงของอุปทานเหรียญ Stablecoin หรือการฟื้นตัวของ On-chain Metrics โดยสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของปัจจัยที่จะมากำหนดความเป็นไปของอุตสาหกรรมในปีนี้ ซึ่งการที่สถาบันทางการเงิน นักลงทุน และผู้ใช้ สามารถตามทันแนวโน้มและทิศทางต่างๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาคว้าโอกาสในการเติบโตไว้ได้”

 

เทรนด์คริปโตปี 2024

 

  1. การฟื้นตัวของ Bitcoin

ในปี 2023 การฟื้นตัวของ Bitcoin เริ่มต้นขึ้นด้วยการมาถึงของ Ordinals Protocol ของ เคซีย์ โรดาร์มอร์ (Casey Rodarmor) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ผู้เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ที่สามารถดึงดูดความสนใจทั้งจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบคริปโต และนักลงทุนการเงินแบบดั้งเดิม ตามมาด้วย Bitcoin NFT และความคาดหวังของการอนุมัติ U.S. Bitcoin ETF ที่จะมาช่วยผลักดันมูลค่าตลาดของ Bitcoin และสถานะของ Bitcoin ในระบบนิเวศทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น

 

การตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับคำขอ BTC ETF จำนวน 13 รายการ มีกำหนดจะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของกระบวนทัศน์ภาพรวมด้านกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ศาลสหรัฐฯ มีคำตัดสินอย่างเด็ดขาดให้กับ Grayscale ในกรณีข้อพิพาทกับ ก.ล.ต. เกี่ยวกับการแปลง Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ให้เป็นสปอต BTC ETF ซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้กลายเป็นตัวเร่งให้ผู้เล่นรายใหญ่ เช่น BlackRock Fidelity และ Invesco ยื่นใบสมัคร BTC ETF ในเดือนต่อมา

 

ทั้งนี้ การมาถึงของ Bitcoin Halving หรือการลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งของ Bitcoin ในทุกๆ ประมาณ 4 ปี ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะทำให้สถานะของ Bitcoin ในฐานะ ‘ทองคำดิจิทัล’ และสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแข็งแกร่งขึ้น โดยเมื่อพิจารณาถึงอุปทานสูงสุดคงที่ของ BTC ที่ 21,000,000 เหรียญ การลดลงครึ่งหนึ่งทำให้เกิดอุปทานที่จำกัด ซึ่งจะทำให้เหรียญมีราคาเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยมีการคาดการณ์ว่าหลังจากการเกิด Bitcoin Halving ในครั้งนี้ รางวัลจะลดลงจาก 6.25 BTC ต่อบล็อกเป็น 3.125 BTC ต่อบล็อก ซึ่งจะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

 

นอกจากนี้ Ordinals Protocol ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2023 โดยใช้ ‘ทฤษฎีลำดับ’ เพื่อระบุหมายเลข Satoshi แต่ละตัวทั้ง 100,000,000 SATS ในแต่ละ BTC โดยไม่ซ้ำกัน ทำให้เกิดการสร้าง ‘Bitcoin NFT’ ที่ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของ Bitcoin โดย Ordinals Protocol ยังได้จุดประกายให้เกิดโทเคนมาตรฐานใหม่ BRC-20 ในเดือนมีนาคม 2023 ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักพัฒนาให้สามารถสร้างและโอนโทเคนดิจิทัลชนิดที่ทุกเหรียญสามารถแลกเปลี่ยน และใช้งานทดแทนกันได้ (Fungible Token) ได้บน Bitcoin เป็นครั้งแรก โดยการปรากฏตัว Ordinals Protocol นั้น นับเป็นการช่วยเพิ่มสีสันและเติมเต็มนวัตกรรมให้กับระบบนิเวศของ Bitcoin เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2024 ได้เป็นอย่างดี

 

  1. อุปทานของ Stablecoin

อุปทานของ Stablecoin เริ่มกลับมามากขึ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/22 ที่การเปลี่ยนแปลงสุทธิรายไตรมาสของอุปทาน Stablecoin 5 อันดับแรกตามมูลค่าตลาดเป็นไปในเชิงบวกสำหรับไตรมาสที่ 4/23 ทำให้การติดตามตัวชี้วัดนี้จะมีความสำคัญในอนาคตต่อการพิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หรือเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ยั่งยืน

 

  1. ปริมาณการซื้อขาย NFT

ปริมาณการซื้อขาย NFT ได้แตะระดับต่ำสุดในรอบปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-กันยายน 2023 แต่อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มการกลับตัวเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมก่อนที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน โดย NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Bitcoin NFT ด้วยปริมาณการซื้อขายมากกว่า 375 ล้านดอลลาร์ แซงหน้า Ethereum ซึ่งนี่ถือเป็นความสำเร็จของ Bitcoin ที่หลายคนต่างกล่าวว่าไม่เหมาะกับ NFT และแอปพลิเคชันอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกรรมแบบ Peer-to-Peer (P2P)

 

ตัวเลขของ NFT ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่เปลี่ยนไป รวมถึงยังถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากที่ราคา NFT ลดลงเป็นเวลาหลายเดือน โดยการติดตามแนวโน้มเหล่านี้ในปี 2024 อาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการประเมินความยั่งยืนของตลาดด้วยเช่นกัน

 

  1. ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน

เมื่ออุตสาหกรรมคริปโตเติบโตเต็มที่ และโปรโตคอลต่างๆ ก้าวไปสู่ยุคของการสร้างรายได้ ค่าธรรมเนียมที่สร้างโดยโครงการคริปโตชั้นนำได้ถูกรวมเข้ามาเป็นหนึ่งในเกณฑ์ชี้วัดด้วยเช่นกัน โดยในปี 2023 โครงการ 20 อันดับแรกมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นถึง 88% นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน

 

Ethereum ยังคงเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมสูงเป็น 2 เท่าของโปรโตคอลอื่นๆ ตามมาด้วย Lido และ Uniswap ที่มีค่าธรรมเนียมมากเป็นอันดับ 2 ในโลก DeFi นอกจากนี้ OpenSea ยังได้รับค่าธรรมเนียม NFT สูงกว่า Manifold เกือบ 2 เท่า และมากกว่า Blur ถึง 2 เท่า โดยค่าธรรมเนียมที่เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนนั้นได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้เชิงโมเดลทางธุรกิจ รวมถึงยังกระตุ้นให้เกิดการติดตามเพื่อเสาะหาอัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมที่สุดในปีหน้าอีกด้วย

 

  1. Layer 1s

Ethereum ยังคงครองอันดับ 1 ของแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) แต่ก็มีโซลูชันทางเลือกอื่นๆ ในเลเยอร์ 1 ที่กำลังก้าวเข้ามาท้าทายตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Solana ที่มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 56% หรือ Toncoin ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งด้วยการจับมือกับ Telegram

 

นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาที่สำคัญอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มเลเยอร์ 1 ทั้งการที่ Ethereum ถอน ETH ที่ฝากไว้ค้ำประกัน (Stake) ในการเปิดตัว opBNB ของ BNB Chain (BNB Chain’s opBNB) ซึ่งเรากำลังตั้งตารอการพัฒนาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2024 ซึ่งจะกำหนดภูมิทัศน์ของคริปโตต่อไป

 

  1. การมาถึงของ SocialFi

การคาดหวังถึงศักยภาพทางสังคมของแอปพลิเคชันบล็อกเชนได้เกิดขึ้นให้เห็นมานานแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลให้เกิดการบรรจบกันของ DeFi และโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็น SocialFi หรือ Social Finance ที่แปลว่า ‘การเงินเพื่อสังคม’ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2023 friend.tech ได้รับค่าธรรมเนียมโปรโตคอลมากถึง 25 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งยังได้รับความสนใจจากเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์นอกวงการคริปโตอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแอปโซเชียล Web3 ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังมีโครงการ SocialFi อื่นๆ อีกมากมายที่มีความน่าสนใจ อย่าง Farcaster Lens Protocol และ Binance Square ทั้งนี้ ในปี 2024 SocialFi จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งจะยังเป็นตัวกำหนดรูปแบบการโต้ตอบทางโซเชียลบน Web3 ในอนาคตอีกด้วย

 

ความคาดหวังในปี 2024

เมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2024 ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกที่เริ่มกระจายไปทั่วอุตสาหกรรมคริปโต บรรยากาศแห่งความตื่นเต้น และการเข้ามาของนักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การติดตามปัจจัยทั้ง 6 ข้างต้นเป็นเรื่องที่สำคัญในการเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกของคริปโตในปี 2024 ต่อไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising