วานนี้ (8 ธันวาคม) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการกรุงโตเกียวเตรียมผลักดันการใช้ระบบคู่ชีวิต เปิดพื้นที่ให้คู่รัก LGBTQ+ ในสังคมญี่ปุ่น นับเป็นก้าวสำคัญของชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในประเทศที่มีความอนุรักษนิยมสูงมาก หลังจากที่ญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวจากทั้งหมด 7 ประเทศในกลุ่ม G7 ที่ยังไม่ผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมและอนุญาตให้คู่รัก LGBTQ+ สมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดย ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียวเผยว่า ระบบคู่ชีวิตนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2022 ซึ่งจะเป็นการขยายสิทธิให้ครอบคลุมผู้คนในสังคมเพิ่มมากยิ่งขึ้น คู่ชีวิตที่จดทะเบียนกับทางการให้รับรองความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะได้รับประโยชน์บางประการเฉกเช่นคู่สมรส เช่น มีสิทธิใช้ชื่อร่วมกันในการเช่าจองอสังหาริมทรัพย์ มีสิทธิเข้าเยี่ยมหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นต้น
แม้ว่าระบบคู่ชีวิตจะยังแตกต่างและไม่ครอบคลุมสิทธิเท่ากับการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม แต่ทางการกรุงโตเกียวมองว่านี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการปูทางไปสู่การอนุญาตให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในอนาคต เนื่องจากในขณะนี้รัฐธรรมนูญญี่ปุ่นยังคงนิยามว่าการสมรสเป็นเรื่องของความยินยอมจากทั้งสองเพศ (ชายและหญิง)
โดยเขตชิบูย่าในกรุงโตเกียวเป็นพื้นที่แรกในญี่ปุ่นที่ผลักดันและประกาศใช้ระบบคู่ชีวิตมาตั้งแต่ปี 2015 หลายฝ่ายมองว่าการเดินหน้าก้าวสำคัญนี้ของโตเกียว ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากการเป็นเจ้าภาพมหกรรมโอลิมปิกที่ผ่านมา สำหรับก้าวต่อไปคือการทำให้สมรสเท่าเทียมเกิดขึ้นได้จริง เกิดแรงผลักดันและขับเคลื่อนให้รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนในประเด็นนี้ แม้จะยังคงมีกลุ่มอนุรักษนิยมบางส่วนออกมาทัดทานและแสดงความคิดเห็นคัดค้านเกี่ยวกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของคนอื่นๆ บ่อยครั้ง โดยมักอ้างถึงระบบวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ดีงามภายในครอบครัวของญี่ปุ่น
ภาพ: Toru Yamanaka / AFP
อ้างอิง: