×

จีนอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 1.8 แสนล้านดอลลาร์ เสริมแกร่งตลาดเงินรับมือผลกระทบปัญหาหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์

08.12.2021
  • LOADING...
จีนอัดฉีดเงินเข้าระบบ

สถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่า หลังจากนิ่งเงียบมานาน ในที่สุดทางการจีนก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงินบางส่วน พร้อมกับอัดฉีดเงินเข้าระบบเพื่อเสริมสภาพคล่องและความแข็งแกร่งให้กับตลาดเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม หวังป้องกันผลกระทบจากปัญหาหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ จากกรณีที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Evergrande ไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามกำหนดไว้

 

รายงานระบุว่า ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC เตรียมอัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 188,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.3 ล้านล้านบาท) เข้าสู่ระบบการเงินเป็นครั้งที่สองของปีเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

ขณะเดียวกัน ทาง PBOC ยังได้ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง ในอัตรา 0.50% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคมนี้ ยกเว้นสถาบันการเงินที่มีการกันสำรองที่ระดับ 5% อยู่แล้ว ซึ่งการลดสัดส่วนเงินกันสำรองของธนาคารจะทำให้เงินในระบบราว 1.2 ล้านล้านหยวน พร้อมที่จะปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนได้อย่างรวดเร็ว

 

ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนคาดการณ์ว่า การปรับลด RRR จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่แท้จริง และช่วยลดต้นทุนทางการเงินอย่างครอบคลุม

 

ด้านนักวิเคราะห์หลายสำนัก รวมถึง แลร์รี หู หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนของ Macquarie Group กล่าวว่า แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนยังคงให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความมั่นคงก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้แม้จะพยายามไม่แทรกแซงเศรษฐกิจเพื่อให้จีนฟื้นฟูและเติบโตได้ตามกลไกตลาดที่แท้จริง แต่กรณีของปัญหาหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์มีความเสี่ยงเป็นภัยคุกคามเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจีนโดยรวม ทำให้รัฐบาลไม่อาจเพิกเฉยไม่แทรกแซงไม่ได้

 

นอกจากธนาคารกลางจีนแล้ว ยังมีหน่วยงานกำกับกิจการธนาคารและประกัน รวมทั้งหลักทรัพย์ ต่างออกแถลงการณ์ของตนออกมาที่ระบุว่า ยังมีโอกาสที่จะควบคุมความเสี่ยงของสถานการณ์ของ Evergrande ต่อภาคธุรกิจโดยรวมได้อยู่

 

ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่า บริษัท China Evergrande ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจีนไม่สามารถหาเงินมาชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้ทันในช่วงระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาได้ อ้างอิงจากแถลงการณ์ของบริษัทเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (3 ธันวาคม) ซึ่งระบุว่า บริษัทไม่สามารถรับประกันว่าจะหาเงินมากพอมาจัดการกับภาระหนี้ตามที่เจ้าหนี้ของตนได้เรียกร้อง คิดเป็นเงินมูลค่าถึง 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้ ทำให้ทางการจีนต้องเรียกตัวประธานบริษัทเข้าพบโดยด่วนเมื่อวันจันทน์ที่ผ่านมา (6 ธันวาคม) และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทดิ่งลงอย่างหนักในวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย

 

ท่าทีของบริษัททำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่า รัฐบาลจีนน่าจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยให้บริษัทเดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐในเร็ววันนี้แน่แล้ว โดยความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับการยืนยันมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางจีนประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินและอัดฉีดเงินเข้าระบบครั้งใหญ่

 

ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัท China Evergrande ที่ประสบกับวิกฤตหนี้มูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กล่าวว่า ทางบริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเพื่อรับหน้าที่บรรเทาและกำจัดความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับบริษัทในอนาคต แต่ในส่วนของการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น ทางบริษัทกลับยังคงไม่มีท่าทีใดๆ ยิ่งทำให้นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมั่นใจว่าน่าจะมีการแทรกแซงเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่จากทางการจีนแน่นอน

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X