หลายครั้งที่เราเห็นนาฬิกาเรือนประณีตหรูที่มาพร้อมฟังก์ชันกลไกอันสลับซับซ้อน และยังมีระบบจับเวลาผนวกเข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์ด้วย ซึ่งแม้ไม่ได้เพิ่มความรู้สึกสปอร์ต แต่ก็สามารถใช้งานระบบจับเวลาโครโนกราฟนี้ในกิจกรรมต่างๆ ได้ดี
สำหรับผู้ที่หลงใหลในเครื่องบอกเวลาและศึกษาเรื่องราวของนาฬิกาจักรกลมาเป็นอย่างดีนั้น จะรู้ว่าหนึ่งในกลไกทำงานที่ประดิษฐ์ได้ยากก็คือกลไกจับเวลา ซึ่งไม่ใช่เพียงต้องแม่นยำในการทำงานเท่านั้น การรับแรงกดต่างๆ ที่เกิดกับระบบกลไกยามที่เรากดสั่งการต่างๆ และการใช้พลังงานก็ต้องถูกคำนวณอย่างละเอียดเช่นกัน และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นาฬิกาจักรกลพร้อมฟังก์ชันจับเวลาอยู่ในความนิยมมาโดยตลอด นับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อนจนกระทั่งปัจจุบัน
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่ากลไกจับเวลานับเป็นกลไกที่ประดิษฐ์ได้ยากกลไกหนึ่ง ผู้ผลิตนาฬิกาหลายแบรนด์จึงมักใช้บริการกลไกสำเร็จรูปจากบริษัทผู้ชำนาญด้านการผลิตกลไก หรือหากเป็นแบรนด์ที่ผลิตกลไกชนิดนี้ขึ้นใช้ได้เองก็มักมีเพียง 1 หรือ 2 ชุด เพื่อใช้บรรจุลงในผลงานรุ่นต่างๆ ของแบรนด์
แต่สำหรับ Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลิปป์) ยอดแบรนด์ประดิษฐกรรมเวลาชั้นสูงที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 2 ศตวรรษ และเป็นแบรนด์ในฝันที่คนรักนาฬิกาทั่วโลกถวิลหานั้น มีกลไกจับเวลาที่วิจัย ออกแบบ พัฒนา และประดิษฐ์ขึ้นเองภายในโรงงานที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ อยู่มากมายหลายชุด ทั้งกลไกที่มีระบบจับเวลาร่วมกับการแสดงเวลาปกติเท่านั้น และกลไกจับเวลาชั้นสูงที่ซับซ้อนขึ้น ตลอดจนชุดกลไกที่รวมเอาระบบจับเวลาเข้าไว้ด้วยกันกับฟังก์ชันแสดงค่าหรือระบบกลไกสลับซับซ้อนอื่นๆ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงความเชี่ยวชาญ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เครื่องบอกเวลาทุกรุ่นที่สวมหัวใจกลไกเหล่านี้ล้วนเป็นที่ต้องการของคนรักนาฬิกา และยินดีที่จะรอคอยเพื่อให้ได้ครอบครองผลงานเรือนเอกที่สั่งจอง
การออกแบบที่คำนึงถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในทุกองค์ประกอบของ
Flyback Chronograph with Annual Calendar Ref. 5905/1A-001
ล่าสุด Patek Philippe ได้ทำให้สุนทรียชนคนรักนาฬิกาทั่วโลกได้ตื่นเต้นยินดีอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของนาฬิกากลไกสลับซับซ้อนที่ผสานระบบจับเวลาเข้าไว้ด้วยกันออกมาทีเดียวถึง 3 รุ่น เริ่มจากความซับซ้อนระดับ ‘Complication’ (คอมพลิเคชัน) กับเวอร์ชันล่าสุดของ Flyback Chronograph Annual Calendar Ref. 5905/1A-001 นาฬิกากลไกอัตโนมัติ Caliber CH 28-520 QA 24H ซึ่งผสานระบบจับเวลาโครโนกราฟพร้อมฟังก์ชัน ‘Flyback’ ที่ทำให้สามารถกดสั่งการให้เริ่มจับเวลารายการใหม่ได้ทันทีในขณะที่เข็มจับเวลายังคงทำงานอยู่ โดยไม่ต้องกดหยุดและกดรีเซ็ตเข็มจับเวลาก่อน พ่วงด้วยฟังก์ชันปฏิทินรายปี ‘Annual Calendar’ ซึ่งแสดงวันที่ได้อย่างถูกต้องทั้งเดือนที่มี 30 และ 31 วัน โดยต้องการการปรับตั้งแค่ปีละ 1 ครั้ง เมื่อเปลี่ยนวันที่เข้าสู่วันที่ 1 มีนาคมของทุกปีเท่านั้น ทั้งการแสดงค่าปฏิทินเป็นวัน วันที่ และเดือน ยังกระทำผ่าน 3 ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เจาะเรียงกันเป็นแนวโค้งอยู่บริเวณส่วนบนของพื้นหน้าปัดสีเขียวมะกอกลายรัศมี ซึ่งสีเขียวเป็นสีหน้าปัดที่กำลังอินอยู่ในตอนนี้ โดยนอกจากการแสดงค่าผ่านช่องหน้าต่างเช่นนี้จะทำให้อ่านค่าได้อย่างง่ายดายแล้ว ระบบปฏิทินนี้ยังเปลี่ยนค่าในทันทีที่ผ่านเวลาเที่ยงคืนอีกด้วย ทั้งหมดนี้คือลิขสิทธิ์การประดิษฐ์คิดค้นที่ Patek Philippe จดสิทธิบัตรคุ้มครองไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่มีโอกาสได้ครอบครองผลงานจาก Patek Philippe ที่มีระบบปฏิทินนี้จึงภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี่คือการแสดงค่าปฏิทินที่จะมีเฉพาะในนาฬิกา Patek Philippe เท่านั้น
ระบบปฏิทินรายปีที่เรียงลำดับ วัน วันที่ และเดือนของ Flyback Chronograph with Annual Calendar Ref. 5905/1A-001 ทำให้อ่านค่าได้อย่างง่ายดาย
Ref. 5905 รุ่นล่าสุดสำหรับปี 2021 นี้ผลิตตัวเรือนขนาด 42.0 มิลลิเมตร และสายดีไซน์แข็งแรงที่ออกแบบให้มีดีไซน์ต่อเนื่องรับกับตัวเรือนด้วยสเตนเลสสตีล ซึ่งนั่นทำให้ผลงานรุ่นใหม่นี้เป็นที่ต้องการอย่างสูงขึ้นมาทันที เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ Patek Philippe จะผลิตนาฬิกาในกลุ่มกลไกซับซ้อนเช่นนี้ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีล และยังจับคู่มากับสายสเตนเลสสตีลอีกด้วย
รุ่นต่อมาเป็นนาฬิกาจับเวลามาดหรูที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยเป็นความซับซ้อนระดับ ‘Grand Complication’ (แกรนด์คอมพลิเคชัน) ซึ่งเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของ Patek Philippe ที่ครองใจสุนทรียชนมายาวนาน และประดิษฐกรรมเวลา Split-seconds Chronograph Perpetual Calendar Ref. 5204 เวอร์ชันล่าสุดนี้ก็เป็นความภาคภูมิใจทั้งของแบรนด์และผู้ที่ได้ครอบครองนับตั้งแต่เปิดตัวหนแรกใน ค.ศ. 2012 ด้วยตัวเรือนแพลทินัม ก่อนจะมีเวอร์ชันอื่นๆ ตามมา ซึ่งก็ล้วนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอันมาก โดยเวอร์ชันล่าสุดนี้ผลิตตัวเรือนขนาด 40.0 มิลลิเมตร ด้วยทองกุหลาบ 18K จับคู่มากับหน้าปัดทอง 18K ที่เคลือบเป็นสีเทาปัดผิวเป็นลายรัศมี รับกันเป็นอย่างดีกับสายหนังวัวสีเทาที่ตกแต่งผิวเป็นลายหนังจระเข้
คู่สีแห่งความหรู ทองสีกุหลาบและสีเทาเข้ม ที่ให้ทั้งความงามเด่นและความรู้สึกร่วมสมัย
รูปแบบหน้าปัดของ Ref. 5204R-011 ยังคงเด่นชัดด้วยการจัดแสดงค่าฟังก์ชันปฏิทินตลอดชีพ หรือ ‘Perpetual Calendar’ ทั้งวัน วันที่ เดือน และปีอธิกสุรทินได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำโดยไม่ต้องการการปรับตั้งค่าใดๆ แม้เมื่อวันที่ 1 มีนาคมมาถึง ไปจนกระทั่งปีคริสต์ศักราช 2100 นอกจากนี้ยังเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยฟังก์ชันแสดงกลางวัน-กลางคืน และการแสดงข้างขึ้น-ข้างแรมที่เที่ยงตรง ซึ่งทั้งหมดนี้อ่านค่าได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการอ่านค่าของระบบจับเวลาแบบ ‘Split-seconds’ ซึ่งทำให้สามารถจับเวลาได้พร้อมกันถึง 2 รายการ ด้วยเข็มจับเวลาเป็นวินาที 2 เข็มที่ติดตั้งซ้อนกันอยู่บนแกนเดียวกับชุดเข็มแสดงเวลาที่กึ่งกลางหน้าปัด โดยเข็มหนึ่งจะหยุดทันทีเมื่อกดปุ่มสั่งการที่ติดตั้งไว้บนยอดเม็ดมะยม เพื่อให้บันทึกค่าเวลาที่ผู้แข่งขันรายแรกซึ่งถึงเส้นชัยก่อนใช้ไป ขณะที่อีกเข็มหนึ่งที่ซ้อนอยู่เบื้องล่างจะแยกตัวออกมาทันที และเดินหน้าต่อไปเพื่อยังคงจับเวลาของอีกรายการหนึ่งที่ยังไม่เสร็จสิ้นต่อไป ซึ่งลำพังระบบกลไกแยกจับเวลาได้พร้อมกัน 2 รายการเช่นนี้ก็เป็นความซับซ้อนระดับ ‘Grand Complication’ อยู่แล้ว เมื่อมารวมกับฟังก์ชันปฏิทินตลอดชีพที่เป็นอีกหนึ่ง ‘Grand Complication’ ก็ยิ่งทำให้ประดิษฐกรรมเวลาเรือนนี้ล้ำค่าน่าสะสมยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อมองทะลุฝาหลังที่กรุแผ่นคริสตัลแซฟไฟร์เข้าไปจะพบกับความงดงามของโครงสร้างกลไก Caliber CHR 29-535 PS Q และงานขัดแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยมือบนกลไกไขลานชั้นเลิศ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นกลไกนาฬิกาที่งดงามที่สุดชุดหนึ่ง โดยกลไกที่แสนสลับซับซ้อนนี้รวมสิทธิบัตรนวัตกรรมของ Patek Philippe ไว้ถึง 7 ฉบับด้วยกัน แต่หากเจ้าของประดิษฐกรรมเวลาเรือนนี้ไม่อยากเผยกลไกอันยอดเยี่ยมและงดงามชุดนี้ให้ใครชม ก็สามารถให้ทางศูนย์บริการสลับเปลี่ยนเป็นฝาหลังทองกุหลาบ 18K ชนิดแผ่นทึบที่มอบมาให้พร้อมกับนาฬิกาได้
ความงดงามของกลไกไขลาน Caliber CHR 29-535 PS Q ที่อวดผ่านฝาหลังคริสตัลแซฟไฟร์ของ Split-seconds Chronograph Perpetual Calendar Ref. 5204R-011
เรือนสุดท้ายซึ่งก็เป็นผลงานระดับ ‘Grand Complication’ เช่นกันนั้น คือเวอร์ชันใหม่ของผลงานชิ้นเอก World Time Flyback Chronograph Ref. 5930 ที่เปิดตัวอีกครั้งในตัวเรือนแพลทินัมล้ำค่า ขนาด 39.5 มิลลิเมตร ซ่อนกิมมิกเล็กๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ Patek Philippe ด้วยการฝังเพชรน้ำงาม 1 เม็ดลงบนขอบข้างตัวเรือนด้านล่าง ระหว่างขาสายใต้ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เพื่อบ่งชี้ว่านาฬิกาเรือนนี้ผลิตตัวเรือนด้วยแพลทินัม ผลงานเวอร์ชันใหม่นี้สดสวยด้วยพื้นหน้าปัดสีเขียวที่งามประณีตด้วยการสลักลวดลายอย่างละเอียดด้วยมือตามอย่างเทคนิคกิโยเช (Guilloché) ซึ่งเป็นเทคนิคงานฝีมือโบราณที่สืบทอดกันมานับร้อยปี โดยดีไซน์หน้าปัดยังคงใช้เลย์เอาต์เดิม โดดเด่นด้วยวงแหวนสีเทาอ่อนสลับดำซึ่งทำหน้าที่แสดงเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อระบุเวลา ‘World Time’ ของแต่ละเมืองสำคัญทั้ง 24 เมือง ประจำโซนเวลาที่แตกต่างกัน โดยพิมพ์ชื่อเมืองทั้ง 24 ซ้อนกันอยู่ 2 วง ด้านนอกสุดด้วยสีเขียวเพื่อคุมโทน โดยแถบวงแหวนสีเทาอ่อนสลับดำที่แสดงเวลา 24 ชั่วโมงนี้ยังทำหน้าที่แสดงช่วงกลางวัน-กลางคืนของแต่ละไทม์โซนไปในตัวด้วย
ความล้ำค่าทั้งงานฝีมือจากการสลักลายหน้าปัดด้วยเทคนิคโบราณ ในตัวเรือนแพลทินัมล้ำค่า ที่บรรจุกลไกทำงานแสนซับซ้อนอันเป็นความล้ำค่าทางวิศวกรรมไว้ภายใน
นอกจากการแสดงเวลาของทั้ง 24 เขตเวลาทั่วโลกให้อ่านค่าได้พร้อมๆ กันทีเดียวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ผลงานชิ้นเอกเรือนนี้ยังมาพร้อมระบบจับเวลาแบบ ‘Flyback’ ที่แสดงค่าด้วยเข็มวินาทีหลักร่วมกับหน้าปัดย่อยที่ 6 นาฬิกา ซึ่งแสดงค่าจับเวลาสูงสุด 30 นาทีอีกด้วย ทั้งหมดนี้ควบคุมด้วยกลไกออโตเมติกโครโนกราฟ Caliber CH 28-520 HU ซึ่งปรับตั้งทุกค่าและใช้งานทุกฟังก์ชันได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างที่สุด โดยอวดความงดงามของกลไกผ่านฝาหลังที่กรุด้วยแผ่นคริสตัลแซฟไฟร์ เสริมความงดงามด้วยการจับคู่กับสายหนังจระเข้สีเขียว รับกันเป็นอย่างดีกับพื้นหน้าปัด
ทั้ง 3 รุ่นประดิษฐกรรมเวลาเวอร์ชันล่าสุดจาก Patek Philippe ที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ นอกจากจะโดดเด่นยอดเยี่ยมด้วยฟังก์ชันแสดงค่าที่สลับซับซ้อนแล้ว ในส่วนของกลไกจับเวลาที่ถือเป็นอีกหนึ่งความเชี่ยวชาญของ Patek Philippe นั้นยังเหนือชั้นกว่าระบบจับเวลาที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป จากการติดตั้ง ‘Column-wheel’ (คอลัมน์วีล) ที่ช่วยให้การกดสั่งการระบบจับเวลาเป็นไปอย่างนุ่มนวลแม่นยำไม่ติดขัด โดยเฉพาะรุ่น Split-seconds Chronograph Perpetual Calendar Ref. 5204R-011 ที่ติดตั้ง ‘Column-wheel’ ไว้ถึง 2 ชุด เนื่องจากความซับซ้อนของระบบจับเวลา ประสานการทำงานเข้าด้วยกันด้วยคลัตช์แนวระนาบ (Horizontal Clutch) ในขณะที่อีก 2 รุ่นที่เหลือใช้คลัตช์แนวตั้ง (Vertical Clutch) ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียด และความเชี่ยวชาญในศาสตร์และศิลป์ชั้นสูงของการประดิษฐ์เรือนเวลาที่สืบทอดกันมาหลายศตวรรษ โดยประดิษฐกรรมเวลาจากฝีมือสร้างสรรค์ของ Patek Philippe ทุกเรือนจะมาพร้อมกับตราประทับรับรองมาตรฐานขั้นสูงสุด ‘Patek Philippe Seal’ (ปาเต็ก ฟิลิปป์ ซีล) ที่สลักไว้บนแท่นเครื่องอย่างโดดเด่นเต็มภาคภูมิ