วานนี้ (2 พฤศจิกายน) รัฐบาลเอธิโอเปียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เรียกร้องให้ประชาชนร่วมปกป้องกรุงแอดดิส อะบาบา เมืองหลวงของประเทศจากแนวร่วมปลดปล่อยประชาชนทิเกรย์ (Tigray People’s Liberation Front: TPLF) กลุ่มกบฏที่เข้ายึดครอง 2 เมืองสำคัญที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงแอดดิส อะบาบา ราว 400 กิโลเมตร ก่อนที่จะเข้าประชิดเมืองหลวง
เจ้าหน้าที่ด้านสันติภาพและความมั่นคงในกรุงแอดดิส อะบาบา ให้ระยะเวลาประชาชน 2 วันในการขึ้นทะเบียนอาวุธปืนหรือส่งมอบอาวุธปืน เพื่อสนับสนุนกองกำลังของรัฐบาลหรือส่งต่อให้ญาติที่สามารถใช้อาวุธปืนได้ เพื่อร่วมกันปกป้องเมืองหลวงจากการหมายจะยึดครองของกลุ่มกบฏหัวรุนแรง
มีความพยายามจากนานาชาติหลายต่อหลายครั้งที่จะเปิดพื้นที่เจรจาสันติภาพและหยุดยิงระหว่างรัฐบาลและแนวร่วมปลดปล่อย TPLF ที่เริ่มขึ้นจากความพยายามในการปฏิรูปและฟื้นฟูระบอบการเมืองของเอธิโอเปียของ อาบีย์ อาเหม็ด อาลี นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปีย เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี 2019 แต่ดูเหมือนตอนนี้ความพยายามดังกล่าวจะประสบความล้มเหลว
ความขัดแย้งระหว่างแนวร่วมปลดปล่อย TPLF ในภูมิภาคทิเกรย์ทางตอนเหนือของเอธิโอเปียกับรัฐบาลเอธิโอเปียเริ่มขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ก่อนสถานการณ์จะบานปลายและดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ผู้คนจำนวนไม่น้อยเสียชีวิต ประชาชนกว่า 2 ล้านรายจำเป็นต้องอพยพพลัดถิ่น หนีอันตรายจากความขัดแย้ง รวมถึงส่งผลกระทบต่อบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน
ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศเตือนให้กลุ่มกบฏล้มเลิกความพยายามที่จะเข้ายึดครองกรุงแอดดิส อะบาบา พร้อมต่อต้านเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีแผนที่จะนำรายชื่อของเอธิโอเปียออกจากกลุ่มประเทศแอฟริกันที่ได้รับสิทธิ GSP ตามกฎหมาย African Growth and Opportunity Act of 2000 (AGOA) หลังมีการใช้ความรุนแรงละเมิดสิทธิมุนษยชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2022
ขณะที่รัฐบาลเอธิโอเปียส่งจดหมายเรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวใหม่อีกครั้ง พร้อมระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ควรลงโทษประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มกองกำลังฉุกเฉิน อีกทั้งการนำเอาเอธิโอเปียออกจาก AGOA จะส่งผลกระทบต่องานกว่า 1 ล้านตำแหน่งทั่วประเทศ
ภาพ: Minasse Wondimu Hailu / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: