วันนี้ (3 พฤศจิกายน) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน – 2 พฤศจิกายน 2564 ว่าทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู, ขอนแก่น, มหาสารคาม, อุบลราชธานี, นครราชสีมา, สิงห์บุรี, ลพบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นครปฐม และปราจีนบุรี รวม 43 อำเภอ 352 ตำบล 2,031 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90,367 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 21 ราย (ลพบุรี 11 ราย, เพชรบูรณ์ 2 ราย, ชัยนาท 2 ราย, นครสวรรค์ 3 ราย, สิงห์บุรี 3 ราย)
แยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสัง และศรีบุญเรือง รวม 7 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 254 ครัวเรือน, ขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออุบลรัตน์, น้ำพอง และเมืองขอนแก่น รวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,473 ครัวเรือน, มหาสารคาม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโกสุมพิสัย, กันทรวิชัย และเมืองมหาสารคาม รวม 12 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,627 ครัวเรือน, อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 577 ครัวเรือน, นครราชสีมา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง และพิมาย 14 ตำบล 129 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,073 ครัวเรือน
ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี, เมืองสิงห์บุรี และพรหมบุรี รวม 13 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,905 ครัวเรือน, ลพบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมี่ และเมืองลพบุรี รวม 8 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,121 ครัวเรือน, สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และสองพี่น้อง รวม 20 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,011 ครัวเรือน, อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง, ไชโย, ป่าโมก และวิเศษชัยชาญ รวม 36 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,453 ครัวเรือน, พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่, เสนา, บางบาล, พระนครศรีอยุธยา, บางไทร, บางปะอิน, มหาราช,บางปะหัน, บางซ้าย, ลาดบัวหลวง และบ้านแพรก รวม 132 ตำบล 800 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 55,376 ครัวเรือน, ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และสามโคก รวม 21 ตำบล 56 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน, นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน, นครชัยศรี, สามพราน, กำแพงแสน และดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน
ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านสร้าง และศรีมโหสถ รวม 9 ตำบล 54 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,296 ครัวเรือน ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน ทาง ปภ. ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ‘ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784’ โดยเพิ่มเพื่อน LINE ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง