ภาพของราฟาเอล นาดาล นอนบนคอร์ดดินที่เขาคุ้นเคย กับเสียงเชียร์ลั่นสังเวียนโรลังด์ การ์รอส ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุดครั้งหนึ่งของวงการเทนนิส
สาเหตุหลักนั้นแน่นอนว่า อย่างแรกเป็นความสำเร็จที่นักเทนนิสชาวสเปนวัย 31 ปีคนนี้ ได้ก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น เป็นสมัยที่ 10 พร้อมกับสถิติเข้าชิง 10 ครั้ง ได้แชมป์ทุกครั้ง รวมถึงสามารถปราบคู่แข่งอย่างโดมินิก ธีม ดาวรุ่งพุ่งแรงมือ 6 ของโลกจากออสเตรียวัย 23 ปี และสตานิสลาส วาวรินกา นักเทนนิสจอมพลังมือ 3 ของโลก ซึ่งเป็นการเก็บชัยชนะแบบ 3 เซตรวดทั้งคู่ และยังทำสถิติลงสนาม 81 ครั้ง ชนะ 79 ครั้ง แพ้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นในการแข่งขันรายการนี้
ราฟาเอล นาดาล แสดงถึงความปลาบปลื้มที่กลับมาคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ได้สำเร็จ
PHOTO: CHRISTOPHE SIMON, AFP
แต่ความประทับใจอีกอย่างคือ การกลับมาทวงบังลังก์คอร์ดดินได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งหากย้อนกลับไปครั้งสุดท้ายที่เขาคว้าแชมป์รายการนี้คือปี 2014 เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หลัง ซึ่งรบกวนฟอร์มการเล่นของเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้อันดับโลกตกลงอย่างน่าใจหาย
อาการบาดเจ็บ และสื่อกีฬาเริ่มหมดหวังกับราชาคอร์ดดิน
อาการบาดเจ็บของเขาส่งผลกระทบอย่างหนักต่อฟอร์มการเล่น ซึ่งส่วนหนึ่งสื่อมวลชนต่างก็วิเคราะห์กันว่า ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุเดือดของนาดาล ส่งผลให้เขาได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง และอาจจะส่งผลเสียระยะยาว โดยเฉพาะการคว้าแชมป์คอร์ดดิน ซึ่งต้องใช้ร่างกายและเทคนิคขั้นสูงในการลงเล่นแต่ละครั้ง ซึ่งในช่วงที่นาดาลกำลังอยู่ในจุดสูงสุด เขาสามารถคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ได้ 9 ครั้งภายในเวลา 12 ปี
โดยอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าเมื่อปี 2015 ทำให้เขาฟอร์มตกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเฟรนช์ โอเพ่นในปีนั้น เขาก็พ่ายให้กับโนวัค ยอโควิช ในรอบ 8 คนสุดท้าย คว้าแชมป์ เอทีพี 500 ไป 1 รายการ และคว้าแชมป์เอทีพี 250 ไป 2 รายการในปีนั้น ส่วนปี 2016 เขามีอาการบาดเจ็บข้อมือจนถึงขั้นต้องถอนตัวจากเฟรนช์ โอเพ่น และวิมเบิลดัน ก่อนที่จะไปคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเทนนิสประเภทชายคู่ได้ที่ประเทศบราซิล
ปรับความเร็วเกมและเพิ่มสปีดลูกเสิร์ฟบอลสอง เคล็ดลับของนาดาล 2017
นาดาลฟื้นฟูสภาพร่างกายครั้งใหญ่ในปี 2016 ก่อนกลับมากับแผนการใหญ่ในปีนี้ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 10 ให้ได้ โดยเริ่มต้นด้วยการประกาศแต่งตั้งคาร์ลอส โมยา นักหวดรุ่นพี่เป็นหนึ่งในทีมโค้ช ล่าความสำเร็จในศึกเทนนิสเอทีพีทัวร์ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 ซึ่งเห็นผลทันทีจากผลงานแกรนด์สแลมแรกของปี ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงได้สำเร็จ ก่อนที่จะพ่ายให้กับคู่อริตลอดกาลอย่างโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิง แต่นั่นก็ไม่ใช่เป้าหมายหลักของเขาในปีนี้
พอเริ่มต้นฤดูกาลคอร์ดดิน นาดาลก็คว้าแชมป์คอร์ดดินติดกัน 3 รายการ พร้อมกับทำสถิติชนะ 15 ครั้งติดต่อกัน และแพ้ให้กับโดมินิก ธีมในรอบ 8 คนสุดท้ายที่อิตาเลียน โอเพ่น ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลีเพียงรายการเดียวเท่านั้น ก่อนจะกลับมาคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 10 ได้อย่างยิ่งใหญ่
ราฟาเอล นาดาล กับลุงโทนี นาดาล โค้ชและลุงของนาดาลผู้มีส่วนสำคัญในความสำเร็จของเขา
PHOTO: GABRIEL BOUYS, AFP
“ฉันคิดว่าคาร์ลอส โมยา ช่วยเขาได้เยอะมาก นาดาลมีความมั่นใจและมีความเร็วมากขึ้น ฉันคิดว่าโมยามีส่วนสำคัญในการสร้างความแตกต่างให้กับนาดาล นอกจากแรงบันดาลใจสำคัญจากลุงโทนีโค้ชคนแรกของเขา” แพม ชริเวอร์ อดีตแชมป์ยูเอส โอเพ่น ชาวสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์หลังนาดาลคว้าแชมป์ที่มาดริด โอเพ่น
“ฉันเห็นความเปลี่ยนแปลงในความเร็วอย่างชัดเจน ทั้งความเร็วของลูกและความเร็วของนาดาลในสนาม เขาสามารถวิ่งถึงบอลได้เร็วขึ้น และเขาไม่กลัวที่จะขึ้นมาเล่นเกมหน้าเน็ต นาดาลปรับสปีดเกมของเขาให้เร็วขึ้นไปอีก ซึ่งมันทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น และทำให้เขาไม่ใช่แค่นักเทนนิสที่ตั้งรับ หรือรอจังหวะสวนกลับอย่างเดียว แต่เขาสามารถเปิดเกมรุกได้อย่างดุเดือดอีกด้วย” คริสทีน เอเวิร์ต นักเทนนิสหญิงชาวอเมริกัน อดีตมือวางอันดับหนึ่งของโลก เจ้าของสถิติชนะเลิศเทนนิสแกรนด์สแลมประเภทหญิงเดี่ยว 18 ครั้ง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงฟอร์มการเล่นของนาดาลในปี 2017
‘คุณต้องมีเป้าหมาย’ ความมุ่งมั่นสู่การกลับมาทวงบัลลังก์
นาดาลยอมรับว่า ความเปลี่ยนแปลงสำคัญของเทคนิคเขาอยู่ที่การเสิร์ฟบอลสอง ซึ่งเขารู้สึกมั่นใจมากขึ้น รวมทั้งยอมรับว่าการลงฝึกซ้อมอย่างมีความสุขก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เขามีกำลังใจไล่ล่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง
“ผมคิดว่าผมเสิร์ฟบอลสองได้เร็วขึ้น แต่ผมยังไม่อยากเริ่มวิเคราะห์ฟอร์มการเล่นของตัวเอง ผมเชื่อว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาผมสามารถเล่นได้ดีขึ้นกว่าปี 2015” นาดาลได้ให้สัมภาษณ์หลังคว้าแชมป์ที่มาดริด โอเพ่น
“ฟอร์มของผมตอนนี้ยังไม่ดีพอ แต่ก็ไม่แย่จนเกินไป คุณต้องไม่โกหกตัวเอง คุณต้องพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ที่สำคัญคุณต้องมีเป้าหมาย คุณต้องฝึกด้วยความสนุก คุณต้องการที่จะเก่งกว่านี้ แต่ต้องไม่ฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่ง มันดูไม่มีเหตุผลเกินไป คุณแค่ต้องการแรงผลักดัน แรงผลักดันที่จะพาคุณไปสู่เป้าหมาย แค่นั้นแหละคือสิ่งที่คุณต้องการ”
สิ่งที่เห็นได้ชัดในรอบชิงชนะเลิศที่ผ่านมาคือ ความมั่นใจของนาดาล ซึ่งได้พัฒนามากขึ้นจากเดิม ทั้งที่ ณ เวลาหนึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลายคนมองว่าเขาอาจจะเกษียณ และหยุดสถิติแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ไว้ที่ 9 สมัย แต่สิ่งหนึ่งที่นักกีฬาระดับโลกทุกคนมีเหมือนกัน คือความกระหายในความสำเร็จ ซึ่งนาดาล เลือกใช้ปรัชญาชีวิตที่ดุเดือดไม่ต่างจากการเล่นเทนนิสของเขา ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะหาทางเอาชนะอาการบาดเจ็บอย่างไร ร่างกายของเขาก็จะส่งเขาออกจากคอร์ดเทนนิสครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่วันนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถเอาชนะร่างกายของตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีทางการแพทย์มีส่วนสำคัญในการช่วยให้เขาฟื้นฟูสภาพร่างกายได้สำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่เครื่องจักรไม่สามารถช่วยได้ นั่นคือแรงผลักดันสู่เป้าหมาย
วันนี้เขาได้ก้าวสู่สถิติใหม่ด้วยการคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 10 ได้สำเร็จ เป้าหมายของเขาต่อจากนี้ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีคำพูดอย่างเป็นทางการมายืนยัน แต่ผมก็เชื่อได้ว่าแฟนเทนนิสต่างก็รอให้นาดาลไปพบกับเฟเดอเรอร์ นักเทนนิสเจ้าของสถิติแชมป์แกรนด์สแลม 18 ครั้งที่กลับมาสู่จุดสูงสุดอีกครั้งในปีนี้เช่นกัน
PHOTO: GABRIEL BOUYS, AFP
วงการเทนนิสโลกอาจจะมีนักเทนนิสหน้าใหม่ขึ้นมาให้แฟนกีฬาได้ตื่นเต้น แต่ดูเหมือนว่านาดาล หรือแม้กระทั่งเฟเดอเรอร์ ยังไม่อยากรีบออกไปจากการแข่งขันเทนนิสในระดับสูง และเป็นความท้าทายให้นักเทนนิสรุ่นใหม่ต่อไป
อ้างอิง:
– www.tennisnow.com/News/2017/May/Setting-the-Pace-Reasons-for-Rafael-Nadal-s-Resur.aspx
– www.rollingstone.com/culture/features/rafael-nadal-long-road-back-20150120
– www.wimbledon.com/en_GB/news/articles/2017-06-11/in_stats_nadal_wins_10th_french_open.html