บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ HMPRO เผยผลประกอบการไตรมาส 3/64 มีกำไร 870.41 ล้านบาท ลดลง 37.85% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากรายได้ ยอดขาย และค่าเช่าลดลง จากผลกระทบล็อกดาวน์ จนต้องปิดสาขาทั้งในและต่างประเทศชั่วคราว 40 แห่ง ขณะที่งวด 9 เดือน มีกำไร 3,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.54%
HMPRO รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรก ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/64 จำนวน 870.41 ล้านบาท หรือ 0.07 บาทต่อหุ้น ลดลง 37.85% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่มีกำไร 1,400.51 ล้านบาท หรือ 0.11 บาทต่อหุ้น
รายได้รวมไตรมาสนี้อยู่ที่ 13,776.84 ล้านบาท ลดลง 2,240.83 ล้านบาท หรือ 13.99% หลังจากภาพรวมยอดขายในประเทศได้รับผลกระทบจากทั้งการปิดสาขาชั่วคราวตามคาสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และจากกำลังซื้อในประเทศที่ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับรายได้ค่าเช่าที่ลดลง เป็นผลจากการที่บริษัทยังคงปรับลดหรือยกเว้นค่าเช่าให้แก่ผู้เช่า
ด้านกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) ลดลง 14.58% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากสัดส่วนการขายสินค้าของกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา เช่น สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และจากสัดส่วนของสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยลดลง เช่น สินค้ากลุ่ม Soft Line นอกจากนั้น เนื่องจากบริษัทได้ชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายในช่วงที่มีการปิดสาขาชั่วคราว ทำให้ส่วนลดของการสั่งซื้อลดลง
ขณะที่งวด 9 เดือนปี 2564 มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,665.47 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 1.54% จากงวดเดียวกันปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 3,609.71 ล้านบาท หรือ 0.27 บาทต่อหุ้น
วรรณี จันทามงคล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบัญชีและการเงิน HMPRO กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 3 ประเทศไทยยังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดค่อนข้างรุนแรงในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ก่อนเริ่มลดลงช่วงต้นเดือนกันยายน เกิดจากความพยายามของทุกภาคส่วนในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ของศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อลดจำนวนลงในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างด้วยเช่นเดียวกัน โดยทาง ศบค. ได้แบ่งการควบคุมพื้นที่ต่างๆ ตามความเสี่ยง เช่น พื้นที่สีแดงเข้มที่บังคับใช้มาตรการพิเศษครอบคลุมพื้นที่ราว 29 จังหวัด และพื้นที่สีต่างๆ คลอบคลุมทั้งประเทศ โดยได้มีมาตรการเคอร์ฟิวที่เริ่มบังคับใช้วันที่ 12กรกฎาคม และยกระดับเป็นมาตรการล็อกดาวน์
เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือและดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว HMPRO ได้ปิดทำการบางสาขาชั่วคราว ประกอบด้วย
- ธุรกิจโฮมโปรในประเทศ ปิดสาขาชั่วคราว 29 สาขา ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม-31 สิงหาคม
- ธุรกิจเมกาโฮม ปิดสาขาชั่วคราว 4 สาขา ตั้งแต่20 กรกฎาคม-31 สิงหาคม
- โฮมโปรประเทศมาเลเซีย ปิดสาขาชั่วคราวทั้งหมด 7 สาขา ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ถึง 22 สิงหาคม ตามมาตรการของประเทศมาเลเซีย
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP