จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ส่งสัญญาณพร้อมพับแผนการจัดฟุตบอลโลกรูปแบบใหม่ 2 ปีครั้ง หลังจากที่มีกระแสการต่อต้านอย่างหนักจากทั้งในวงการฟุตบอลและวงการกีฬาโลก
อินฟานติโนขึ้นกล่าวในระหว่างการประชุมคณะกรรมการฟีฟ่าที่กรุงซูริก เกี่ยวกับแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในรูปแบบใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมจากเดิม 4 ปีครั้งลดลงเหลือแค่ 2 ปีครั้ง ซึ่งเป็นแผนที่ได้รับการเสนอจาก อาร์เซน เวนเกอร์ อดีตยอดกุนซือระดับปราชญ์ลูกหนังที่นั่งแท่นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาวงการฟุตบอลของฟีฟ่าในเวลานี้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ชาติหน้าใหม่ที่ไม่เคยได้เข้าแข่งฟุตบอลโลก และแฟนบอลสมัยใหม่ได้มีความสุขกับมหกรรมฟุตบอลบ่อยขึ้น
อย่างไรก็ดี จากการที่มีกระแสต่อต้านอย่างหนักไม่เพียงแต่ในวงการฟุตบอลชาย ยังมีการต่อต้านจากวงการฟุตบอลหญิง และวงการกีฬาอื่นแม้กระทั่งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่กังวลผลกระทบจากการจัดฟุตบอลโลกในรูปแบบใหม่ รวมถึงเสียงสะท้อนจากสปอนเซอร์หลักอย่าง Adidas ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ทางด้านอินฟานติโนจึงส่งสัญญาณที่อาจจะยอมถอยในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าในการประชุมใหญ่ฟีฟ่าวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะเป็นการหารือเพื่อปฏิรูปปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลในอนาคต และไม่ให้คำมั่นว่าจะมีการจัดโหวตเพื่อรับรองข้อเสนอใด เพราะการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายเท่านั้น
“การเปิดประเด็นเกี่ยวกับฟุตบอลโลกของเรามีปฏิกิริยาตอบรับที่รุนแรงอย่างมาก ผมได้ยินคำวิจารณ์ที่หนักหน่วงแต่ก็มีคนที่สนับสนุนเช่นกัน การสนทนานั้นมีความแตกต่างกันสูงในแต่ละส่วนของโลก เป้าหมายของผมคือการที่ทุกคนจะต้องเข้าร่วมด้วยกัน และเราจะต้องไปพร้อมกัน” ประธานฟีฟ่ากล่าว
“สิ่งที่ผมบอกตั้งแต่ต้นแล้วคือ เราจะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อมันเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย ซึ่งถ้ามันเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนจริง ผมคิดว่าก็คงไม่มีเหตุผลที่คนจะไม่เห็นด้วย
“ผมมั่นใจในวันที่ 20 ธันวาคม เราจะสามารถนำเสนอแผนการที่เป็นรูปธรรมดา ส่วนมันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรแล้ว สำหรับผมทุกอย่างยังคงเปิดกว้างอยู่ บางทีมันอาจจะมีทางที่เรายังหาไม่พบตอนนี้ แต่ถ้าเราได้คุยกันเราจะหาทางออกนี้ได้ ดังนั้นทุกความคิดทุกข้อเสนอยังเปิดกว้างอยู่”
อินฟานติโนยังเปิดเผยถึงแผนที่จะแยกการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่หากทีมใดเข้าร่วมแข่งในฟุตบอลโลกแล้วหนึ่งครั้ง จะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งครั้งต่อไปในอีก 2 ปีถัดไปได้ และยังมีแผนที่จะเสนอจัดการแข่งขันรายการใหม่ที่เรียกว่า ‘โกลบอลเนชันส์ลีก’ ที่จะยึดรูปแบบเดียวกับเนชันส์ลีก ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ด้วย
อ้างอิง: