ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้วอย่างเป็นทางการในวันนี้ (14 ตุลาคม) เพื่อเปิดทางให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
การประกาศยุบสภาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่คิชิดะชนะเสียงโหวตในพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party: LDP) และเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ซึ่งจะส่งผลให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ประกาศยุบสภาหลังรับตำแหน่งในช่วงระยะเวลาสั้นที่สุดเพียง 10 วัน
“เราต้องเผชิญหน้ากับการตัดสินของประชาชน และผมรู้สึกจริงจังอย่างมาก” คิชิดะ กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนช่วงเช้านี้
เบื้องต้นคาดว่าการเลือกตั้งจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรหมดวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหลังยุคสงครามโลกที่การเลือกตั้งทั่วไปจะจัดขึ้นหลังจากที่ ส.ส. ทำหน้าที่จนครบวาระ โดยคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะมีการจัดประชุมในวันนี้ เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ก่อนที่การหาเสียงเลือกตั้งจะเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม
ทั้งนี้พรรค LDP คาดหวังว่า ความสำเร็จจากการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดที่บรรเทาลงในตอนนี้ โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันลดจากกว่า 25,000 คน เมื่อเดือนสิงหาคม เหลือประมาณ 600 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์นี้ จะช่วยให้พรรคได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้น
ขณะที่ ยูกิโอะ เอดาโนะ ผู้นำพรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (Constitutional Democratic Party: CDP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก วิพากษ์วิจารณ์มาตรการรับมือโควิดของพรรค LDP ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงและยังวิ่งตามหลังคนอื่นเสมอ
“พรรค LDP ไม่มีวันเปลี่ยน เราจำเป็นต้องเปลี่ยนรัฐบาลเอง” เขากล่าว
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่นี่ จะเป็นโอกาสของคิชิดะ ในการได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อนโยบายหลักของเขาซึ่งมุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด ตลอดจนนโยบายเพิ่มการรับมือการระบาดที่เข้มข้นขึ้น
ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2017 พรรค LDP และพรรคโคเม (Komeito) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ชนะที่นั่ง ส.ส. ในสภา จำนวน 310 ที่นั่ง จากทั้งหมด 465 ที่นั่ง โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ คิชิดะตั้งเป้าว่าพรรค LDP และพรรคร่วมรัฐบาลจะได้ที่นั่ง ส.ส. อย่างน้อย 233 ที่นั่ง หรือเกินกึ่งหนึ่ง
ภาพ: Photo by Toru Hanai / Pool / Bloomberg / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: