สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม) ประกาศจัดตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อว่า ‘ศูนย์ภารกิจจีน’ หรือ China Mission Center เพื่อมุ่งเน้นภารกิจในการรับมือกับความท้าทายเชิงกลยุทธ์ที่เกิดจากจีน
โดยการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศปรับเปลี่ยนโครงสร้างของ CIA ซึ่งเป็นผลจากการประเมินและสะท้อนมุมมองของชุมชนข่าวกรองที่มีต่อจีนในฐานะภัยคุกคามระยะยาวที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ซึ่ง วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการ CIA ระบุในแถลงการณ์ว่า ศูนย์ภารกิจจีนมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกที่เกิดจากจีน และหน่วยงานใหม่นี้ “จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับงานส่วนรวมของ CIA ที่เกี่ยวกับภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งสำคัญที่สุดที่สหรัฐฯ เผชิญในศตวรรษที่ 21 และการเพิ่มขึ้นของท่าทีที่เป็นปรปักษ์จากรัฐบาลจีน”
“ตลอดประวัติศาสตร์ของเรา CIA ได้ก้าวขึ้นมาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่เข้ามาหาเรา และตอนนี้เรากำลังเผชิญกับการทดสอบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยากที่สุดในยุคใหม่ของการแข่งขันของมหาอำนาจ ซึ่ง CIA จะอยู่แถวหน้าของความพยายามนี้” เบิร์นส์ กล่าว พร้อมย้ำถึงเป้าหมายในการรับมือกับภัยคุกคามที่มาจากรัฐบาลจีน ไม่ใช่ประชาชนจีน
สำหรับศูนย์ภารกิจจีนนี้เป็นหนึ่งในศูนย์ภารกิจเกือบ 10 หน่วยภายใต้การควบคุมของ CIA โดยจะมีการจัดประชุมระดับผู้อำนวยการเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อประสานงานด้านกลยุทธ์ของหน่วยงานที่มีต่อภารกิจเกี่ยวกับจีน
ซึ่งนอกจากนี้ CIA ยังมีการตั้งศูนย์ภารกิจข้ามชาติและเทคโนโลยี ซึ่งจะมุ่งเน้นภารกิจรับมือกับประเด็นปัญหาระดับโลกที่มีความสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ เช่น ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีเกิดใหม่ ตลอดจนปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนและความท้าทายด้านสุขภาพ
ความเคลื่อนไหวของ CIA ครั้งนี้ยังสะท้อนถึงนโยบายและท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีต่อจีน ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไบเดนได้ประกาศตั้งคณะทำงานใหม่ในกระทรวงกลาโหม เพื่อประเมินและรับมือกับความท้าทายทางทหารจากปักกิ่ง
ขณะที่หนังสือพิมพ์ The Washington Post รายงานความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่า CIA จะใช้หน่วยงานใหม่นี้ ในการส่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคไปยังหลายประเทศทั่วโลกเพื่อรวบรวมข่าวกรอง และจะมีการจัดหาและฝึกอบรมการพูดภาษาจีนแก่เจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับที่เคยทำในภารกิจต่อต้านสหภาพโซเวียต
ภาพ: Photo Illustration by Omar Marques / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: