วานนี้ (29 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุจลาจลขึ้นภายในเรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองกวายากิล เมืองชายฝั่งที่อยู่ห่างจากกรุงกีโต เมืองหลวงของเอกวาดอร์ ไปกว่า 400 กิโลเมตร เป็นเหตุปะทะกันระหว่าง 2 แก๊งใหญ่ภายในเรือนจำอย่างโลส โลโบส และโลส โชเนโรส มีการใช้มีด อาวุธปืน และระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 100 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 52 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ภายหลังเกิดเหตุจลาจลไปแล้ว 5 ชั่วโมง โดยยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 30 รายในช่วงต้นที่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต นับเป็นหนึ่งในเหตุจลาจลภายในเรือนจำของเอกวาดอร์ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนไม่น้อย ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้ ท่ามกลางภาวะนักโทษล้นเรือนจำและจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้คุมไม่เพียงพอ
เอกวาดอร์มีพรมแดนติดกับโคลอมเบียและเปรู ประเทศผู้ผลิตโคเคนรายใหญ่ของโลก เอกวาดอร์จึงเป็นหนึ่งในประเทศทางผ่านสำคัญในการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยเรือนจำของเอกวาดอร์กลายเป็นพื้นที่ความขัดแย้งของเครือข่ายขบวนการยาเสพติดเม็กซิโก โดยเฉพาะแก๊งซีนาโลอา และแก๊งฮาลิสโกรุ่นใหม่
เฟร์นันโด การ์ริออน ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชาวเอกวาดอร์ระบุว่า เอกวาดอร์กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตในเรือนจำ เมื่อปี 2010 มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นภายในเรือนจำเฉลี่ยราว 25 รายต่อปี ก่อนที่สถิติจะเพิ่มสูงขึ้นเกิน 160 ราย เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เรือนจำกลายเป็นพื้นที่ของการใช้ความรุนแรง มีการทุจริตคอร์รัปชันเพื่อจัดหาอาวุธให้กับนักโทษกลุ่มต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
ภาพ: Jose Sanchez Lindao / AFP
อ้างอิง: