เกิดอะไรขึ้น:
วันนี้ (27 กันยายน) บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) ประกาศเข้าซื้อหุ้น 66.7% ในโบทานีสตูดิโอ มูลค่า 36 ล้านบาท (ผ่านทางบริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NRF) โดยคาดว่าธุรกรรมจะแล้วเสร็จใน 4Q64
โดยโบทานีสตูดิโอดำเนินธุรกิจการตลาด จัดจำหน่าย และขายส่งอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ Katty Boss และ Bravo Boss โดยในปี 2563 โบทานีสตูดิโอมีรายได้ 10.2 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 3.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ NRF เปิดเผยว่าโบทานีสตูดิโอเผชิญกับข้อจำกัดด้านกำลังการผลิต เนื่องจากไม่มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นของตนเอง และบริษัทวางแผนขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยหลังจากการลงทุนครั้งนี้ NRF วางแผนเปลี่ยนโรงงานผลิตน้ำเต้าหู้ซิตี้ฟูด (ซึ่งปัจจุบันดำเนินงานไม่เต็มกำลังการผลิต) ให้เป็นโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง โดยคาดว่าจะปรับปรุงเสร็จสิ้นใน 2Q65
กระทบอย่างไร:
วันนี้ราคาหุ้น NRF ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.58%DoD ปิดที่ระดับ 8.50 บาท ตามทิศทางตลาดหุ้นไทย (SET Index) ที่ปรับตัวลง 11.13 จุดหรือลดลง 0.68%DoD สู่ระดับ 1,620.02 จุด
มุมมองระยะสั้น:
ในเบื้องต้นโบทานีสตูดิโอจะสร้างรายได้ให้กับ NRF น้อยมากในสัดส่วนไม่ถึง 1% ของรายได้ทั้งหมด แต่ในระยะสั้น NRF จะแบกรับภาระผลขาดทุนของโบทานีสตูดิโอ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการปรับปรุงโรงงาน ทั้งนี้ SCBS เล็งเห็นโอกาสที่ความสามารถในการทำกำไรของโบทานีสตูดิโอจะปรับตัวดีขึ้นในอนาคต เมื่อพิจารณาจากอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่กำลังเติบโต โดยหากเปรียบเทียบข้อมูลจาก บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) ซึ่งตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งในระดับ 15-18% ในระยะยาว
ทั้งนี้ ต้องติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง ซึ่งรายได้กว่า 90% ของ NRF อยู่ในสกุลเงินต่างประเทศ (หลักๆ เป็นสกุลเงินดอลลาร์) ขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินบาท
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดแนวโน้มกำไรปี 2565-2566 ของ NRF จะเติบโต 168%YoY และ 77%YoY โดยได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตจากภายนอกผ่านทางโครงการลงทุนใน Pipeline ที่รวมถึงธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
ทั้งนี้ แนวโน้มการเติบโตระยะยาวยังคงมีความเสี่ยงจากการลงทุนในสตาร์ทอัพ และบริษัทร่วมทุน P&B หากโครงการเหล่านี้มีแนวโน้มการเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้