การระบาดของโควิด ทำให้เมืองผู่เถียนในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ประกาศปิดสถานที่สาธารณะ เช่น โรงภาพยนตร์, คาเฟ่อินเทอร์เน็ต, บาร์, ห้องสมุด, พิพิธภัณฑ์ และยิม ตลอดจนลดระยะเวลาให้บริการและจำกัดผู้ใช้บริการร้านอาหาร นอกจากนั้นยังปิดทางเข้า-ออกจากทางหลวงบางส่วน และระบุว่าประชาชนไม่ควรออกจากเมืองด้วยเหตุที่ไม่จำเป็น และผู้ที่จะออกจากเมืองจะต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิดที่ตรวจภายใน 48 ชั่วโมงว่าเป็นลบก่อนเดินทาง
ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 20.00 น. วานนี้ (13 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า พบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันใน ‘คลัสเตอร์ผู่เถียน’ แล้วทั้งสิ้น 58 ราย และพบผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งทางการจีนจะไม่นับเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน จนกว่าจะมีการแสดงอาการทางคลินิกจำนวน 21 ราย
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีนรายงานว่า สถานการณ์ในเมืองผู่เถียนนั้น ‘รุนแรงและซับซ้อน’ และมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นในชุมชน โรงเรียน และโรงงาน ขณะที่ Reuters รายงานว่า การเรียนการสอนแบบที่ไม่ใช่ออนไลน์บางส่วนในโรงเรียนถูกระงับในเมืองดังกล่าว และหน่วยงานด้านสุขภาพแห่งชาติของจีนได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปยังเมืองแห่งนี้แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า แหล่งที่มาของการระบาดน่าจะมาจากพ่อของนักเรียนรายหนึ่งที่เดินทางไปสู่เขตเซียนโหยวในเมืองผู่เถียน ซึ่งในเขตนี้เองที่เป็นพื้นที่แรกที่พบผู้ติดเชื้อจากการตรวจหาเชื้อตามปกติ โดยตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นนักเรียนชั้นประถมหลายคน คาดว่าพ่อคนดังกล่าวจะเดินทางมาจากเมืองเซียะเหมินซึ่งอยู่ในมณฑลเดียวกัน หลังจากการเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ ล่าสุดในเขตนี้เริ่มมีการตรวจหาเชื้อ ระงับการให้บริการรถประจำทางและแท็กซี่ ปิดสถานีรถโดยสารระยะไกล และห้ามผู้โดยสารขึ้นหรือลงจากสถานีรถไฟ
ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นระบุว่า พ่อของนักเรียนคนดังกล่าวถูกกักตัวในโรงแรมมาแล้วเป็นเวลา 14 วัน และยังกักตัวเพิ่มอีก 7 วันในการกักตัวแบบรวมศูนย์ ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเขตเซียนโหยว ก่อนเดินทางกลับบ้านและรับการติดตามสุขภาพอีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ส่วนสื่อของทางการระบุว่า เขามีผลการตรวจเชื้อเป็นลบถึง 9 ครั้งระหว่างการกักตัว 21 วัน ก่อนจะได้ผลตรวจเป็นบวกหลังจากเขาเดินทางเข้าประเทศจีนมาแล้ว 37 วัน สำนักข่าว CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการไม่ได้เปิดเผยโดยตรงว่าเขาได้รับเชื้อเมื่อใด จากที่ใด และรับมาอย่างไร แต่ระยะฟักตัวที่เกินกว่า 21 วันถือว่าไม่ปกติอย่างมาก และทำให้เกิดคำถามต่อความยั่งยืนของกลยุทธ์ ‘โควิดเป็นศูนย์’ ที่เข้มงวดของจีน ส่วนผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์บางคนตั้งคำถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ชายคนดังกล่าวจะรับเชื้อหลังจากเดินทางกลับมายังเขตเซียนโหยวแล้ว
ส่วนที่เมืองเซียะเหมินเอง ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (13 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น พบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วทั้งสิ้น 12 ราย ทั้งหมดอาการคงที่และกำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาล
อนึ่ง การระบาดครั้งก่อนหน้าของจีนซึ่งกระทบต่อมณฑลเจียงซูเป็นหลักและกินเวลาราว 1 เดือน ได้สิ้นสุดลงเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน โดยไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่มณฑลดังกล่าว
ภาพ: Chen Xiaorong / VCG via Getty Images
อ้างอิง:
