เชื่อว่า LINE แอปพลิเคชันที่กำลังขยายตัวมากกว่าการเป็นแค่ ‘แอปฯ แชต’ จะเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ทุกคนจะโหลดมาไว้ใช้งาน ซึ่งล่าสุดนั้น LINE ประเทศไทย ประกาศผู้ใช้งานครบ 50 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิดให้บริการครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2554 หรือเมื่อ 10 ปีก่อน
“การเติบโตรอบด้านของ LINE สอดคล้องกับแนวคิด Life on LINE ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลนี้ให้สามารถรองรับทุกความต้องการ โดยเฉพาะช่วงเวลาล็อกดาวน์ตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา LINE เป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่คนไทยใช้มากที่สุดในช่วงเวลาดังกล่าว (จากผลสำรวจโดย MarketBuzzz)” พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าว
แต่ละบริการของ LINE ประกอบไปด้วย
- LINE OpenChat ช่วงปีที่ผ่านมามีผู้ร่วมคอมมูนิตี้เพิ่มขึ้น 38% และกรุ๊ปต่างๆ เพิ่มขึ้น 92% (ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 กับเดือนกรกฎาคม 2564) พบว่าส่วนใหญ่ของกรุ๊ปที่เปิดใหม่ถูกตั้งขึ้นเพื่ออัปเดตสถานการณ์เกี่ยวกับโควิดและเพื่อใช้ติดตามอาการหลังฉีดวัคซีนโดยโรงพยาบาล รวมถึงใช้เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนในช่วงเรียนออนไลน์
- LINE Official Account ในจำนวนบัญชีใหม่มากกว่า 50% เป็นกลุ่มธุรกิจ SMEs รวมถึงแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีระดับโลก ขณะที่ภาครัฐและเอกชนต่างๆ ก็ใช้บัญชีทางการเพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโควิด รวมถึงเพื่อให้บริการ ‘Telemedicine’ ในหลายโรงพยาบาลเช่นเดียวกัน
- ร้านค้าบน LINE SHOPPING มี Active Social Seller มากกว่า 200,000 ร้านค้า ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าธุรกิจขนาดเล็ก
- LINE MAN ที่มีผู้ใช้เพิ่มเป็น 5.9 ล้านราย ให้บริการใน 67 จังหวัด โดยตั้งเป้าขยายครบ 77 จังหวัด ภายในสิ้นปีนี้
- LINE BK ยอดผู้ใช้บริการทะลุ 2 ล้านคน ภายใน 4 เดือน หลังจากการเปิดให้บริการ
ข้อมูลจากสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) เผยว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆ มีการใช้งบโฆษณาในแพลตฟอร์ม LINE ประมาณ 1,196 ล้านบาท คิดเป็น 6% ของมูลค่าโฆษณาดิจิทัล 21,058 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 8%
ขณะที่ในปี 2564 ได้ประเมินว่าการใช้งบโฆษณาในแพลตฟอร์ม LINE จะอยู่ที่ประมาณ 1,472 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 6% ของอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลที่คาดว่าจะมีมูลค่า 23,315 ล้านบาท เติบโต 11% โดยในช่วงครึ่งปีแรกนั้นแบรนด์ต่างๆ ใช้งบกับโฆษณาดิจิทัลไปแล้ว 11,732 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีการใช้เม็ดเงินอีก 11,583 ล้านบาท
