ศบค. เตรียมพิจารณามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในตลาด ตรวจเชิงรุกผู้ค้า ลูกจ้าง และชุมชนโดยรอบตลาดพื้นที่สีแดงเข้ม คาดดำเนินการ 3 ระยะ ครอบคลุมเป้าหมาย 2 แสนคน ตรวจ 4 รอบ รวมใช้ ATK 8.5 แสนชุด รับสนับสนุนจาก สปสช.
วันนี้ (22 สิงหาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่กระทรวงสาธารณสุขได้ติดตามข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดทั่วประเทศพบว่า ในส่วนของพื้นที่สีแดงเข้ม โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับตลาดสดและตลาดนัด โดยพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 10 สิงหาคม พบการติดเชื้อใน 23 จังหวัด ในตลาด 132 แห่ง ผู้ติดเชื้อรวม 14,678 คน
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้จัดทำมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดในตลาด ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะได้พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป
ไตรศุลีกล่าวว่า มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในตลาดจะประกอบด้วยมาตรการ 3 ส่วน ได้แก่ มาตรการป้องกันคน ป้องกันสถานที่ (ตลาด) และจัดการระบบเฝ้าระวังควบคุมโรค ซึ่งในส่วนการป้องกันคนนั้นจะมีตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ในกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ค้า ลูกจ้าง แรงงาน ที่เดินทางเข้าออก ผู้อยู่อาศัยที่ประกอบธุรกิจอยู่โดยรอบ และมีการสุ่มตรวจผู้ซื้อที่เดินทางเข้าไปใช้บริการในตลาด
ดำเนินการในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 29 จังหวัด โดยแบ่งดำเนินการเป็น 3 ระยะ ระยะที่ 1 ดำเนินการใน 9 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ราชบุรี ชลบุรี นครราชสีมา สงขลา และสระแก้ว เป้าหมายที่ตลาดค้าส่งและตลาดขนาดใหญ่ (500 แผงขึ้นไป) ตลาดที่มีความเสี่ยงสูง มีชุมชนรอบตลาด รวม 27 แห่ง ระยะที่ 2 ดำเนินการตรวจในพื้นที่ตลาดทุกขนาดในจังหวัดสีแดงเข้ม 16 จังหวัด ครอบคลุมตลาด 117 แห่ง และระยะที่ 3 ดำเนินการครอบคลุมตลาดทุกขนาดในพื้นที่สีแดงเข้มทั้ง 29 จังหวัด รวมตลาด 683 แห่ง
ไตรศุลีกล่าวว่า การประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการตรวจครอบคลุมเป้าหมาย 202,010 คน ตรวจทุกสัปดาห์เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ใช้ชุดตรวจ ATK 808,040 ชุด มีการสำรองสำหรับกรณีตรวจเชิงรุกอีก 41,960 ชุด รวมใช้ชุดตรวจ ATK ตามมาตรการนี้รวม 850,000 ชุด ซึ่งจะขอรับการสนับสนุนชุดตรวจจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต่อไป
นอกจากดำเนินการตรวจเชิงรุกแล้ว ตามมาตรการนี้จะมีการให้วัคซีนแก่ผู้เกี่ยวข้องในตลาดตามลำดับความเสี่ยง รวมถึงดำเนินมาตรการอื่นควบคู่ เช่น การมีแผนเผชิญเหตุ การจัดเตรียมโรงพยาบาลสนามหรือสถานที่แยกกัก เพื่อรองรับกรณีผู้ติดเชื้อหรือพบผู้มีผลตรวจ ATK เป็นบวก