วันที่ 3 ธันวาคม 1992 ถือเป็นวันแรกที่ SMS (Short Message Service) หรือบริการส่งข้อความขนาดสั้นบนโทรศัพท์มือถือได้กำเนิดขึ้น โดยเวลานั้น นีล แพพเวิร์ธ (Neil Papworth) นักพัฒนาและออกแบบซอฟต์แวร์ในวัย 22 ปีกลายเป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถส่งข้อความสู่แพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือได้สำเร็จ
เดิมทีนีลทำงานอยู่ในแผนกพัฒนาและทีมวิศวกรทดสอบระบบประจำเครือข่ายโทรคมนาคม Sema Group Telecoms ซึ่งมีหน้าที่พัฒนาฟีเจอร์การส่งข้อความขนาดสั้นเพื่อให้ลูกค้าของ Vodafone ใช้ กระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม นีลและทีมก็ประสบความสำเร็จในการพัฒนา SMS โดยเขาได้ทดลองส่งข้อความสุขสันต์วันคริสต์มาส (Merry Christmas) ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ไปยังมือถือของ ริชาร์ด จาร์วิส (Richard Jarvis) กรรมการบริหารค่ายโทรศัพท์มือถือ Vodafone ในขณะนั้น ก่อนที่วัฒนธรรมการส่งข้อความผ่านมือถือจะค่อยๆ แพร่หลายอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
เอลิซาเบธ บรูตัน (Elizabeth Bruton) ผู้ดูแลหน่วยงานเทคโนโลยีและวิศวกรรมประจำพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในลอนดอนได้กล่าวยกย่องให้ SMS เป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิด ‘สมาร์ทโฟน’ ในปัจจุบัน เนื่องจากนีลได้สะท้อนให้เห็นผ่านการส่งข้อความตัวอักษรว่าโทรศัพท์มือถือไม่ได้มีความสามารถแค่การโทรเข้าโทรออกอย่างเดียวเท่านั้น
“มันถือเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญมากๆ ในประวัติศาสตร์โทรศัพท์มือถือ นับเป็นครั้งแรกที่พวกเรามีมือถือที่เป็นมากกว่าโทรศัพท์ จากความสามารถในการสื่อสารด้วยเสียงเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ประโยชน์การส่งข้อความตัวอักษร จะเห็นได้ว่ามันทำให้เกิดการต่อยอดพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ที่เรามีแอปพลิเคชันใช้งานหลายหมื่นตัวบนสมาร์ทโฟน ดังนั้น SMS จึงอาจจะเป็นก้าวเเรกของการพัฒนาสมาร์ทโฟนในวันนี้”
เป็นเรื่องน่าแปลกไม่น้อยที่ทุกวันนี้แนวโน้มการส่งข้อความแบบเสียเงินด้วย SMS ยังคงมีตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยสำนักข่าว Sky เปิดสถิติข้อมูลพบว่าในปี 2007 การส่งข้อความ SMS ในประเทศอังกฤษมีจำนวนทั้งหมด 66,000 ล้านครั้ง/ปี ขณะที่ในปี 2012 การส่ง SMS กลับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 151,000 ล้านครั้ง/ปี
.
อย่างไรก็ดี เมื่อวัดตัวเลขรวมการส่งข้อความ SMS ของผู้ใช้งานทั่วโลกโดย Data.gov.sg จากสิงคโปร์พบว่า ในช่วงระยะหลังๆ แนวโน้มความนิยมการส่งข้อความรูปแบบนี้เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยในปี 2011 มีข้อความจำนวนกว่า 9,649 ล้านข้อความที่ถูกส่งทั่วโลก ขณะที่ในปี 2016 การส่งข้อความ SMS กลับลดลงเหลือเพียง 3,260 ล้านข้อความเท่านั้น โดยสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความนิยมในการใช้แชตแอปพลิเคชันแบบฟรีที่มีอยู่แพร่หลายในปัจจุบัน
แล้วคุณล่ะยังส่ง SMS อยู่หรือเปล่า?
อ้างอิง:
- news.sky.com/story/first-text-message-sender-neil-papworth-celebrates-25th-sms-anniversary-11154491
- www.engadget.com/2017/12/03/first-text-message-25th-anniversary/
- en.wikipedia.org/wiki/Neil_Papworth
- data.gov.sg/dataset/volume-of-sms-messages?view_id=7228ca14-c0f4-443e-9f7f-a95a624337bb&resource_id=e395f96a-b194-4fec-8865-ec2bd6137370