ดูเหมือนว่านักลงทุนจะเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มมากขึ้น สะท้อนผ่านราคาคริปโตฯ หลายๆ เหรียญที่ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งราคาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับขึ้นมาแล้วราว 54% จากระดับ 29,800 ดอลลาร์ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 มาอยู่ที่ระดับ 46,000 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ (10 สิงหาคม)
นอกจากนี้ราคาเหรียญคริปโตฯ อื่นๆ ก็ปรับตัวขึ้นร้อนแรงด้วยเช่นกัน เช่น Ethereum เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่มีมาร์เก็ตแชร์อันดับ 2 ของตลาด ซึ่งราคาปรับขึ้นมาแล้วเกือบ 80% จากระดับ 1,737 ดอลลาร์ ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 มาอยู่ที่ระดับ 3,122 ดอลลาร์ในเช้าวันนี้ เช่นเดียวกับเหรียญ Dogecoin ที่ปรับขึ้นมา 86% และ BNB ปรับขึ้นมา 41% ในช่วงเวลาเดียวกัน
การปรับขึ้นของราคาเหรียญคริปโตฯ เหล่านี้ มาจากหลายปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดโมเมนตัมเชิงบวกที่รักษาสภาพตลาดไว้ได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนมากมาย โดยเฉพาะข่าวที่ J.P. Morgan ล่าสุดได้เปิดขายกองทุนคริปโตเคอร์เรนซีถึง 6 กองทุน
นอกจากนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีข่าวการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตฯ โดยวุฒิสมาชิกในสหรัฐฯ ทาง อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Tesla และหนึ่งในบุคคลที่นับว่ามีอิทธิพลต่อวงการคริปโตฯ คนหนึ่ง ได้ออกมาทวีตให้ความเห็นเกี่ยวกับตลาดคริปโตอีกครั้ง ซึ่งเป็นการทวีตตอบ “เห็นด้วย” กับข้อความของ ไบรอัน อาร์มสตรอง (Brian Armstrong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Coinbase กระดานเทรดคริปโตฯ ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ควรจะออกกฎหมายมาควบคุมคริปโตฯ และเลือกว่าใครควรจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ในเรื่องของเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัล
จากความเห็นของอีลอนส่งผลให้แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีข่าวว่าวุฒิสมาชิกในสหรัฐฯ จะปฏิเสธการแก้ไขร่างกฎหมายทางด้านภาษีที่เกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีใจความที่เกี่ยวข้องกับ “การนำภาษีที่จัดเก็บจากจากคริปโตฯ เพื่อไปพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานของประเทศเป็นจำนวนเงิน 28,000 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 8.4 แสนล้านบาท” ที่ถูกเสนอให้แก้ไขโดยกลุ่มผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมคริปโตฯ ก็ตาม แต่ภาพรวมตลาดก็ยังคงรักษาความแข็งแกร่งอยู่เช่นเดิม โดยแสดงให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มจะไม่ได้สนใจในเรื่องกฎหมายสักเท่าไรแล้ว
อ้างอิง: