มีข้อถกเถียงกันอยู่ไม่ใช่น้อยว่าการดื่มน้ำอุ่นกับน้ำเย็นนั้นอะไรดีกว่ากัน น้ำอุ่นและน้ำเย็นที่เราดื่มเข้าไปส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพร่างกายบ้าง งานวิจัยของคุณหมอเนฮา เซนวัลกา (Neha Sanwalka) กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนศาสตร์จากโรงพยาบาลเจฮางจีร์ ประเทศอินเดีย มีคำตอบที่น่าสนใจครับ
คุณหมอเนฮาพบว่าน้ำอุ่นและน้ำเย็นล้วนมีประโยชน์ทั้งคู่ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกดื่มน้ำแบบไหนในสภาวะเช่นไร น้ำอุ่นช่วยส่งเสริมให้ระบบย่อยอาหารทำงานง่ายขึ้น เพราะมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายของคนเรา ขณะที่น้ำเย็นมีประโยชน์มากสำหรับคนที่เป็นลมแดด เพราะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกายที่สูงให้กลับลงมาเป็นปกติโดยเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้ว เวลารับประทานอาหารหรือดื่มน้ำเข้าไป สิ่งหนึ่งที่จำเป็นคือระบบต่างๆ ในตัวของคนเราจะช่วยกันปรับอุณหภูมิของอาหารและน้ำดื่มให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายมากที่สุด เพื่อที่การย่อยและดูดซึมจะเป็นได้โดยสะดวก การดื่มน้ำอุ่นหรือดื่มน้ำเย็นจึงส่งผลต่อร่างกายแตกต่างกันครับ
ข้อดีของการดื่มน้ำอุ่นๆ มีดังต่อไปนี้
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ทั้งการแพทย์แผนตะวันออก และไม่ว่าจะเป็นอายุรเวทของอินเดียหรือแพทย์แผนจีนล้วนมีข้อแนะนำเหมือนกันคือให้เราดื่มน้ำอุ่นวันละ 1 แก้วในตอนเช้าที่ตื่นนอน อุณหภูมิอุ่นๆ ของน้ำจะช่วยกระตุ้นประสิทธิภาพการทำงานของระบบทางเดินอาหารและป้องกันท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วยครับ
น้ำอุ่นยังช่วยให้เกิดความสดชื่น ผิวพรรณสดใส คุณสามารถเพิ่มรสและกลิ่นได้ด้วยการฝานมะนาวเติมลงไปในน้ำอุ่นก่อนจะดื่มครับ
- ช่วยให้หายใจสะดวก อุณหภูมิอุ่นๆ ของน้ำจะช่วยลดอาการแน่นจมูกและหายใจไม่สะดวกของคนที่เป็นภูมิแพ้ได้ดีมาก
- ช่วยให้เลือดไหลเวียน น้ำอุ่นมีคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือช่วยให้หลอดเลือดต่างๆ ในร่างกายขยายตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ สะดวกขึ้น นั่นหมายความว่าหากเรามีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว การดื่มน้ำอุ่นจะช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยง ช่วยลดอาการอ่อนล้า และลดปวดได้เป็นอย่างดีครับ
นั่นคือข้อดีของการดื่มน้ำอุ่นครับ และงานวิจัยฉบับเดียวกันของคุณหมอเนฮายังบอกให้เรารู้ว่าการดื่มน้ำเย็นจะมีประโยชน์มากๆ เช่นกันในกรณีดังต่อไปนี้ครับ
- ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย การออกกำลังกายหนักๆ จะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น การดื่มน้ำเย็นๆ หลังการออกกำลังกายจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นและอุณหภูมิลดลงเป็นปกติได้โดยเร็วครับ ทั้งการอยู่ในสถานที่อุณหภูมิสูงๆ หรือฤดูร้อนที่อากาศร้อนมากกว่าปกติ การดื่มน้ำเย็นจะช่วยป้องกันตัวเราจากการเป็นลมแดดครับ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีรวิทยาพบว่า ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำเย็นได้เร็วกว่าน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นครับ
- ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดี ข้อดีข้อนี้สาวๆ น่าจะชอบนะครับ เชื่อหรือไม่ว่าการดื่มน้ำเย็นเป็นประจำมีผลต่อการช่วยลดน้ำหนักได้ทางอ้อม นักวิทยาศาสตร์พบว่าน้ำเย็นกระตุ้นให้ร่างกายมีกระบวนการ metabolism หรือเผาผลาญสารอาหารมากขึ้น การดื่มน้ำเย็นและอาบน้ำเย็นจึงช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น มีผลในการช่วยลดน้ำหนักไปด้วยในตัว
ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรดีที่สุดและไม่มีอะไรแย่ที่สุด น้ำอุ่นก็มีประโยชน์ในแบบของน้ำอุ่น และน้ำเย็นก็มีประโยชน์ในแบบของน้ำเย็น
เมื่อทราบแบบนี้แล้ว คุณคงได้คำตอบว่าในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรดีที่สุดและไม่มีอะไรแย่ที่สุด น้ำอุ่นก็มีประโยชน์ในแบบของน้ำอุ่น และน้ำเย็นก็มีประโยชน์ในแบบของน้ำเย็น ถ้าจะสรุปกันอีกที คงต้องบอกว่าน้ำเย็นจะมีประโยชน์มากๆ หลังจากการออกกำลังกาย เพราะช่วยให้ร่างกาย cool down ลงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าดื่มน้ำเย็นทันทีหลังจากรับประทานอาหารอิ่มอาจจะไม่เหมาะ เพราะร่างกายต้องทำงานหนักในการปรับอุณหภูมิของอาหารให้เข้าสู่สมดุล
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณคงมีข้อมูลเพียงพอที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจว่าเวลาดื่มน้ำแต่ละแก้ว คุณควรเลือกดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นจึงจะมีประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย
- มนุษย์รู้จักการใช้ประโยชน์จากน้ำแข็งมานานหลายร้อยปีแล้ว มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บอกให้เรารู้ว่า กองทัพเรือของเจิ้งเหอถนอมอาหารด้วยการตัดน้ำแข็งมาจากแม่น้ำที่แข็งตัวในฤดูหนาวใส่ลงไปในท้องเรือ เปลี่ยนให้ห้องใต้ท้องเรือซึ่งบุด้วยทองแดงกลายเป็นห้องเย็นขนาดย่อมๆ เพื่อแช่อาหารสดให้กับกองทัพระหว่างออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ทำนองเดียวกับกองเรือของวาสโก ดา กามา และนักเดินทางทางเรือที่มีชื่อเสียงอีกหลายคนก็ใช้วิธีเดียวกัน
- สำหรับคนไทย มีบันทึกเกี่ยวกับน้ำแข็งอย่างเป็นทางการในช่วงราวรัชกาลที่ 5 แต่มีเอกสารและจดหมายหลายฉบับของบริษัทการค้าอินเดียตะวันออกของฮอลันดา หรือ Dutch VOC (Verenigde Oostindische Compagnie) ที่มีสำนักงานอยู่ที่กรุงศรีอยุธยา มีเนื้อความพูดถึงการตัดเอาน้ำแข็งมาจากแม่น้ำในฤดูหนาวสำหรับนำมาใช้ถนอมอาหารในการเดินเรือ จึงมีความเป็นไปได้สูงมากว่าคนไทยอาจจะรู้จักน้ำแข็งมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว