ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (30 กรกฎาคม) เตือนว่าโลกกำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบากในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด หลังอัตราการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา แต่ยังมั่นใจว่าวัคซีนที่ WHO ให้การรับรองนั้น ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อ
“ชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบาก กำลังตกอยู่ในอันตรายหรือกำลังสูญเสียไป และระบบสาธารณสุขในหลายประเทศกำลังจมลง” ดร.ทีโดรส กล่าว
ขณะที่ ดร.ทีโดรส เปิดเผยว่าในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภูมิภาคส่วนใหญ่ของโลกมีอัตราการติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นกว่า 80% โดยในทวีปแอฟริกา ที่มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเพียงประมาณ 1.5% ของจำนวนประชากร มีอัตราผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่า 80%
ท่าทีของ WHO มีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์ The Washington Post เผยแพร่เอกสารรั่วไหล จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด หรือ CDC ของสหรัฐฯ ซึ่งระบุถึงอันตรายของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ว่ามีอัตราการแพร่เชื้อที่สูงเทียบเท่ากับโรคอีสุกอีใส และอาจทำให้ผู้ติดเชื้ออาการทรุดหนักได้มากกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา
ซึ่งการแพร่เชื้อในกลุ่มผู้ฉีดวัคซีนแล้ว อาจรุนแรงเทียบได้กับกรณีของผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ขณะที่ CDC ย้ำว่า ‘สงครามได้เปลี่ยนไปแล้ว’ จากผลของไวรัสสายพันธุ์เดลตา
จากข้อมูลของ WHO พบว่าปัจจุบันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตากำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักในการแพร่ระบาดทั่วโลก โดยพบผู้ติดเชื้อแล้วใน 132 ประเทศทั่วโลก
ขณะที่ ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO ยังแสดงความมั่นใจว่า วัคซีนที่ได้รับการรับรองจาก WHO ณ ปัจจุบัน ยังให้ประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อโควิดทุกสายพันธุ์รวมถึงเดลตา
ภาพ: Photo by Peace One Day via Getty Images
อ้างอิง: