จากกระแสโด่งดัง #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี ที่ติดเทรนด์ Twitter เมื่อวาน จากการประกาศราชกิจจานุเบกษาประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอางนั้น ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับ ‘ภาษี’ ที่หลายคนเกรงว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร
เมื่อกระแสร้อนแรงเกินต้าน กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรจึงออกมาเคลื่อนไหวชี้แจงเพื่อป้องกันการแชร์ต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยยืนยันว่าผ้าอนามัยแบบสอดไม่ได้จัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย 30% ตามที่มีการเข้าใจผิดกันในการแสดงความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ แต่มีการเก็บเพียงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% เท่านั้น
กรมสรรพสามิตยืนยันว่าการประกาศให้ผ้าอนามัยแบบสอดเป็น ‘เครื่องสำอาง’ นั้น เพื่อควบคุมคุณภาพตามกฎหมายสาธารณสุขเท่านั้น แต่เดิมก็ถูกจัดเป็นเครื่องสำอางตั้งแต่ปี 2528 แต่หลุดนิยามไปในปี 2558 ที่มีการแก้ไข พ.ร.บ. เครื่องสำอางใหม่ มีการแก้ไขนิยามของคำว่า ‘เครื่องสำอาง’ ทำให้ ‘ผ้าอนามัยชนิดสอด’ หลุดจากคำนิยามของเครื่องสำอาง แต่ผ้าอนามัยใช้ภายนอกยังเป็นเครื่องสำอาง จึงมีการออกกฎกระทรวงมาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย
ขณะที่ ลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ก็ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตไม่มีนโนบายการจัดเก็บภาษีผ้าอนามัยตามที่เป็นข่าว และไม่เคยมีการกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันกรมสรรพสามิตมีการจัดเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยเพียงรายการเดียว คือ น้ำหอม ในอัตราภาษีตามมูลค่า 8% เท่านั้น ส่วนผ้าอนามัยเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ไม่ได้เสียภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยหรือมีเพดานการจัดเก็บภาษี 30% ตามที่เป็นข่าว เพราะสินค้าผ้าอนามัยไม่ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นที่สตรีต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ ก็ยังมีชาวเน็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงและผู้มีประจำเดือน ก็มีการตั้งคำถามต่อไปว่า เมื่อไรประเทศไทยจะมีการยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของผ้าอนามัยเหมือนประเทศอื่นบ้าง โดยเฉพาะประเทศสกอตแลนด์ที่ผ่านกฎหมายแจกผ้าอนามัยฟรีเป็นประเทศแรกของโลก นอกจากนี้ ยังมีความคิดเห็นหลากหลายที่แสดงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อการมีประจำเดือนว่ามันเป็นสิ่งที่เลือกไม่ได้ ผู้มีประจำเดือนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการซื้อผ้าอนามัยในแต่ละเดือนที่แพงอยู่ดี
เช่นกันกับความคิดเห็นของ อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวผ่านข้อความ Twitter ต่อประเด็น #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี ว่า
“ประจำเดือนเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเลือกไม่ได้นะคะ หลายๆ ประเทศให้ผ้าอนามัยฟรีกันแล้วค่ะ เขาไปถึงไหนกันแล้ว”
ภาพ: Shutterstock
อ้างอิง:
- https://web.facebook.com/106184530760337/posts/567706421274810/?d=n&_rdc=1&_rdr
- กรมสรรพสามิต, กรมศุลกากร, Twitter @AmandaObdam
