วันนี้ (23 กรกฎาคม) ประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้มีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ออกประกาศปิดสถานที่ต่างๆ ในท้องที่รับผิดชอบ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด อาศัยอํานาจตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ที่มุ่งเน้นลดการเดินทางและการออกนอกเคหสถานของประชาชน
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติราชการของหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรที่มีภารกิจการให้บริการแหล่งเรียนรู้เป็นไปในทิศทางเดียวกับแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาด อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 32 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน (ฉบับที่5 ) พ.ศ. 2555 อธิบดีกรมศิลปากรจึงประกาศ ดังต่อไปนี้
- ให้แหล่งเรียนรู้ในสังกัดกรมศิลปากรดังต่อไปนี้ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ปิดการให้บริการเป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564 ยกเว้นแหล่งเรียนรู้ในสังกัดกรมศิลปากรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปิดบริการเป็นการชั่วคราวระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2564
1.1 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
1.2 อุทยานประวัติศาสตร์
1.3 โบราณสถานที่กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนและจัดเก็บค่าเข้าชมตามที่บัญชีแนบท้ายกฎกระทรวงกําหนดค่าเข้าชมและค่าบริการอื่น สําหรับโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2551
1.4 หอสมุดแห่งชาติ
1.5 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
1.6 โรงละครแห่งชาติ
- ให้ผู้บังคับบัญชาของแหล่งเรียนรู้ที่กรมศิลปากรมีคําสั่งให้ปิดการให้บริการตามข้อ 1 จัดให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรในหน่วยงานดําเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งให้มากที่สุด โดยจะต้องไม่กระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ และต้องดําเนินการภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างเคร่งครัด
- ในส่วนของแหล่งเรียนรู้ในสังกัดกรมศิลปากรที่ตั้งอยู่ในจังหวัด ซึ่งถูกกําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กําหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ให้หัวหน้าหน่วยงานติดตามประกาศหรือคําสั่งของจังหวัดเกี่ยวกับการปิดสถานที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยหากผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศหรือคําสั่งให้ปิดการให้บริการแหล่งเรียนรู้เป็นการชั่วคราว ให้แหล่งเรียนรู้ในสังกัดของกรมศิลปากรปิดให้บริการตามระยะเวลาที่ประกาศหรือคําสั่งของจังหวัดนั้นกําหนด โดยไม่ต้องเสนอเรื่องให้อธิบดีกรมศิลปากรพิจารณาอนุญาต แต่ให้รายงานการปิดให้บริการตามประกาศหรือคําสั่งของจังหวัดตามลําดับชั้นขึ้นมาให้อธิบดีกรมศิลปากรทราบ
- ให้หัวหน้าหน่วยงานแหล่งเรียนรู้ที่กรมศิลปากรมีคําสั่งให้ปิดการให้บริการตามข้อ 1 ติดตามประกาศหรือคําสั่งของจังหวัดเกี่ยวกับการปิดสถานที่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยหากผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศหรือคําสั่งให้ขยายระยะเวลาปิดการให้บริการแหล่งเรียนรู้เป็นการชั่วคราวออกไปเกินกว่าที่กําหนดในประกาศฉบับนี้ ให้แหล่งเรียนรู้ในสังกัดของกรมศิลปากรขยายระยะเวลาการปิดให้บริการตามประกาศหรือคําสั่งของจังหวัดนั้น โดยไม่ต้องนําเสนอเรื่องให้อธิบดีกรมศิลปากรพิจารณาอนุญาต แต่ให้รายงานตามลําดับชั้นขึ้นมาให้อธิบดีกรมศิลปากรทราบด้วย