สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิดในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ เริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในไทยบ้างแล้ว โดยมีโรงงานบางแห่งต้องหยุดผลิตชั่วคราว เช่นกรณี โตโยต้า มอเตอร์ เพราะขาดแคลนชิปในรถยนต์ เนื่องจากพนักงานผู้ผลิตชิปติดโควิด ทำให้ต้องปิดโรงงาน จึงไม่สามารถส่งชิ้นส่วนได้
อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าหากสถานการณ์คลี่คลาย การฉีดวัคซีนหลังจากนี้ทำได้มากขึ้น ก็อาจทำให้ผู้ประกอบการกลับมาเร่งผลิตได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งนี้ แม้อุตสาหกรรมรถยนต์จะเจอปัญหาโควิดที่กระทบต่อภาคการผลิต แต่ภาพรวมการส่งออกยังทำได้ดี ทำให้ ส.อ.ท. ยังปรับเป้าการผลิตในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 1.55-1.6 ล้านคัน จากเป้าหมายเดิม 1.5 ล้านคัน
นอกจากนี้ยังได้ปรับเป้าการส่งออกรถยนต์ในปีนี้เพิ่มเป็น 8-8.5 แสนคัน จากเดิม 7.5 แสนคัน เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าดีขึ้น ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และเวียดนาม ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 7.5 แสนคัน
สำหรับจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศในเดือนมิถุนายน 2564 พบว่า การผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2564 มีทั้งสิ้น 134,245 คัน เพิ่มขึ้น 87.22% จากเดือนมิถุนายน 2563 จากฐานต่ำของปีก่อน เนื่องจากการระบาดของโควิด แต่ลดลง 4.23% จากเดือนพฤษภาคม 2564 เพราะผลิตได้ไม่เต็มที่จากการขาดชิ้นส่วนในบางรุ่น
ขณะที่การผลิตรถยนต์ ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ (เดือนมกราคม-มิถุนายน 2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 844,601 คัน เพิ่มขึ้น 39.34% จากเดือนมกราคม-มิถุนายน 2563