×

โอกาสครั้งใหม่ที่อาจพา จอร์แดน สปีธ คว้าเมเจอร์ในรอบ 4 ปี

โดย THE STANDARD TEAM
16.07.2021
  • LOADING...
จอร์แดน สปีธ

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • จอร์แดน สปีธ เพิ่งกลับมาคว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ดิโอเพ่น 2017 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขึ้นมาจบที่ 2 ร่วมในรอบแรกของกอล์ฟดิโอเพ่นที่กำลังแข่งขันอยู่ในตอนนี้
  • เขาเคยร่วงไปถึงอันดับ 92 ของโลก แต่ถ้าทำผลงานได้ดีในรายการนี้ก็มีสิทธิ์กลับมารั้งในอันดับท็อป 20 ของโลกได้อีกครั้ง
  • สปีธคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ไปแล้ว 3 รายการก่อนหน้านี้ และการลุ้นแชมป์ครั้งนี้เป็นการลุ้นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 4 ของเขา

หลังจากรอบแรกในกอล์ฟดิโอเพ่นครั้งที่ 149 จบลง ชื่อของ จอร์แดน สปีธ กลับมาอยู่ในอันดับลุ้นแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยโปรวัย 27 ปีรั้งอันดับที่ 2 ร่วมกับ ไบรอัน ฮาร์แมน โปรเพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกัน ที่ 5 อันเดอร์พาร์ ตามหลัง หลุยส์ อุสธุยเซน ผู้นำในรอบแรกจากแอฟริกาใต้อยู่เพียงแค่ 1 สโตรกเท่านั้น แม้จะเป็นแค่เพียงรอบแรก แต่ก็เป็นผลงานที่น่าชื่นชมของสปีธหลังจากไม่สามารถคว้าแชมป์กอล์ฟเมเจอร์ได้เลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยแชมป์เมเจอร์รายการสุดท้ายที่เขาคว้ามาครองได้สำเร็จ คือการคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2017

 

จากรุกกี้แห่งปี 2013 จนไปถึงการเป็นมือ 1 ของโลกในปี 2015 และคว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการพร้อมกับคว้าเฟ็ดเอ็กซ์ คัพในปีเดียวกัน พร้อมเถลิงตำแหน่งมือ 1 ของโลกในวงการก้านเหล็ก ทำให้ใครหลายคนเชื่อวา จอร์แดน สปีธ จะก้าวขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟชั้นแนวหน้าของวงการในอีกหลายปีนับจากนี้ แต่หลังจากคว้าแชมป์กอล์ฟดิโอเพ่นในปี 2017 ใครจะไปเชื่อว่าชื่อของเขาจะหายไปจากทำเนียบการคว้าแชมป์ใดๆ หลังจากนั้นอีกเกือบ 4 ปี

 

คำว่า ‘ขาลง’ คงพอจะนิยามช่วงเวลาชีวิตของสปีธหลังจากนั้นได้ จากดาวรุ่งความหวังใหม่จนไปถึงมือ 1 ของโลก โปรจากดัลลัส มลรัฐเท็กซัส เคยหล่นไปถึงอันดับ 92 ของโลกเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะกลับมาสู่จุดสูงสุดได้แบบที่เขาเคยเป็นอีกแล้ว หลังจากร้างแชมป์ใดๆ มากว่า 3 ปี แต่เขากลับปีนขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วเมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ แชมป์แรกในรอบเกือบ 4 ปีก็เกิดขึ้นในรายการ วาเลโร เท็กซัส โอเพ่น ในรัฐบ้านเกิดของเขา โดยเอาชนะ ชาร์ลีย์ ฮอฟฟ์แมน โปรเพื่อนร่วมชาติไปได้ 2 สโตรก

 

 

จอร์แดน สปีธ กลับมาลุ้นแชมป์เมเจอร์แรกในรอบ 4 ปีเต็ม

 

การคว้าแชมป์ที่เท็กซัสทำให้เขากระโดดจากมืออันดับ 53 ของโลกขึ้นมารั้งมืออันดับ 38 และกำลังไต่ขึ้นมาอยู่ในมือท็อป 20 ของโลกอีกครั้ง โดยปัจจุบันเขารั้งมืออันดับ 23 ของโลกก่อนเข้าสัปดาห์การแข่งขันรายการใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่รอยัลเซนต์จอร์จกอล์ฟคลับในแซนด์วิช และออกสตาร์ททัวร์นาเมนต์นี้ได้อย่างน่าประทับใจหลังจบรอบแรกด้วยการทำถึง 5 อันเดอร์พาร์

 

อันที่จริงแล้วสปีธเริ่มต้นวันไม่ค่อยดีนัก เขาตีออกโบกี้ตั้งแต่หลุมที่ 3 แต่ก็มาชดเชยความผิดพลาดในหลุมที่ 5 ถึง 8 ด้วยการเก็บเบอร์ดี้ 4 หลุมรวด และมาเก็บอีก 2 เบอร์ดี้ใน 9 หลุมหลัง หลุมที่ 15 และ 16 ทำให้เขานำโปรชื่อดังอย่าง แดนนี วิลเล็ตต์, จัสติน โรส และ ทอมมี ฟลีตวูด 3 โปรเจ้าถิ่นอยู่ 2 สโตรก และยังนำ ดัสติน จอห์นสัน โปรมือ 1 ของโลกชาวอเมริกันอยู่ 3 สโตรกด้วยกัน

 

“สนามนี้ยากทีเดียว มันแตกต่างจากที่อื่นๆ” สปีธกล่าวถึงโค้งและเนินของสนาม “คุณต้องดูให้ออกว่าจะได้เปรียบคู่แข่งตรงจุดไหน และต้องหาข้อมูลด้วยว่าจุดไหนที่คะแนนเฉลี่ยมักจะเป็นโอเวอร์พาร์ ผมคิดว่าเราทำได้ดีทีเดียวในวันนี้

 

“ผมชอบที่จะอยู่ในการแข่งขันและดวลวงสวิงในรายการระดับเมเจอร์ มันสนุกมาก และผมค่อนข้างโชคดีที่ได้ไปเล่นในรายการระดับนี้อยู่เสมอ ผมต้องทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างเพื่อให้ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมกับรายการเหล่านี้ นั่นคือเหตุผลที่เราเล่นกอล์ฟมาเสมอ”

 

 

สปีธลงเล่นรอบแรกพร้อมกับ ไบรสัน เดอชอมโบ แชมป์ยูเอสโอเพ่น 2020

 

สปีธทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในการเปลี่ยนชุดไม้กอล์ฟของเขา จากเดิมที่เคยใช้ชุดเหล็ก T100 ของ Titleist มานับตั้งแต่ปี 2019 มาใช้ชุดเหล็ก T100 รุ่นใหม่ที่ยังไม่มีการวางจำหนายเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้บริเวณอ่าวแซนด์วิช ซึ่งบางครั้งอาจจะมีทั้งลมแรง ฝนตก และแดดออกได้ในวันเดียวกัน การเปลี่ยนเหล็กรุ่นใหม่อาจจะทำให้เขารับมือกับสภาพอากาศต่างๆ ได้ดีขึ้นก็ได้

 

อย่างไรก็ตามการหาผู้ชนะยังจะต้องรอผลการแข่งขันในอีก 3 รอบถัดไป และการกลับมาลุ้นแชมป์เมเจอร์แรกของสปีธอีกครั้งในรอบ 3 ปี ก็กลายเป็นตัวแปรอีกอย่างที่ทำให้ดิโอเพ่นปีนี้น่าติดตามยิ่งขึ้น และต้องรอคอยดูกันว่าโปรอเมริกันวัย 24 ปีคนนี้ จะสามารถเก็บแชมป์เมเจอร์รายการที่ 4 ในชีวิตของเขาได้เมื่อโอกาสมาถึงหรือไม่

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X