ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการดำรงเงินสำรอง (Reserve Requirement Ratio หรือ RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลง 0.5% มาอยู่ที่ 8.9% เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อสู่ระบบได้เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านล้านหยวน หรือราว 5 ล้านล้านบาท โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้
นักวิเคราะห์ประเมินว่า การปรับลด RRR ของจีนในครั้งนี้สะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลงหลังจากที่ GDP ในไตรมาสแรกกลับมาฟื้นตัวเติบโตได้ถึง 18.3% โดยมองว่าอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ของจีนได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วและจะเริ่มเข้าสู่การเติบโตในอัตราปกติในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้รัฐบาลจีนระบุในช่วงสัปดาห์ก่อนว่า จีนจะปรับลด RRR ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งของสภาพคล่องเพิ่มเติมนี้จะถูกปล่อยให้กับบริษัทใช้ชำระภาษีที่จะครบกำหนดในเดือนนี้
อย่างไรก็ดี กลุ่มธนาคารขนาดเล็กที่มีอัตราการดำรงเงินสำรองต่ำกว่า 5% จะไม่ได้รับการปรับลด RRR
ตามนโยบายของธนาคารกลางจีน ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งจะต้องดำรงเงินสำรองตามอัตราที่กำหนดเพื่อรักษาเสถียรภาพ โดย RRR ของธนาคารขนาดใหญ่จะสูงกว่าธนาคารขนาดเล็ก การปรับลด RRR มักจะเกิดขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวเพื่อให้ธนาคารสามารถอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น โดยการปรับลด RRR ครั้งก่อนของจีนเกิดขึ้นในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดอย่างรุนแรง
อ้างอิง:
