เลออน ชาร์ลส ผู้บัญชาการตำรวจเฮติ แถลงต่อสื่อมวลชนวันนี้ ระบุว่าเหตุการณ์ กลุ่มมือปืนบุกสังหารประธานาธิบดีโจเวเนล มอยส์ เมื่อวันพุธ (7 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา เป็นฝีมือของหน่วยลอบสังหารต่างชาติ ซึ่งประกอบด้วยอดีตทหารโคลอมเบีย 26 คน และชาวอเมริกันเชื้อชาติเฮติ 2 คน
โดยชาร์ลสยืนยันว่าตำรวจสามารถจับกุมหน่วยลอบสังหารดังกล่าวได้แล้ว 17 คน รวมชาวอเมริกันทั้ง 2 คน ส่วนอีก 8 คน ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี และ 3 คน ถูกตำรวจวิสามัญระหว่างการยิงปะทะ ขณะที่ยังมีการนำอาวุธ พาสปอร์ต และสิ่งของของผู้ต้องสงสัย พร้อมหลักฐานอื่นๆ มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนด้วย
“ชาวต่างชาติมายังประเทศของเราเพื่อสังหารประธานาธิบดี” เขากล่าว พร้อมยืนยันว่าจะเพิ่มการสืบสวนและติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยอีก 8 คนที่ยังหลบหนีอยู่
นอกจากนี้ รัฐบาลโคลอมเบียยังแสดงความพร้อมให้ความช่วยเหลือทางการเฮติในการสืบสวนด้วย ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า มีประชากรที่ถูกทางการเฮติจับกุมในฐานะผู้ต้องสงสัย
เหตุลอบสังหารผู้นำเฮติวัย 53 ปี เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืดของวันพุธที่บ้านพักประธานาธิบดี ในกรุงปอร์โตแปงซ์ โดยกลุ่มมือปืนอาวุธครบมือบุกเข้าไปภายในบ้าน และเปิดฉากยิงใส่ประธานาธิบดีพร้อมด้วยภริยา ซึ่งทางการระบุว่ามอยส์นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีบาดแผลกระสุนปืน 12 นัด ขณะที่ภริยาบาดเจ็บสาหัสและถูกส่งตัวไปรักษาที่รัฐฟลอริดา โดยล่าสุดอาการยังทรงตัว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเฮติยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนว่าใครที่อยู่เบื้องหลังแผนสังหารประธานาธิบดี และอะไรเป็นแรงจูงใจ ซึ่งรักษาการนายกรัฐมนตรี โคลด โจเซฟ เปิดเผยต่อสำนักข่าว BBC ว่า สาเหตุที่ทำให้ประธานาธิบดีตกเป็นเป้าสังหาร อาจเป็นเพราะการต่อสู้กับกลุ่มผู้มีอิทธิพลภายในประเทศ
ภาพ: Photo by Riccardo Savi/Getty Images for Concordia Summit
อ้างอิง: