2 นัดสุดท้าย รอบ 16 ทีม เพื่อหาอีก 2 ทีมสุดท้ายไปสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ และเกมทั้ง 2 คู่จะฟาดแข้งกันในคืนนี้ ทั้งเกมที่เวมบลีย์ สเตเดียม เวลา 23.00 น. ที่อังกฤษจะรับการมาเยือนของคู่ปรับตลอดกาลอย่างเยอรมนี และคู่ดึกที่อาจจะดูน่าสนใจน้อยกว่าหน่อย เมื่อสวีเดนจะพบกับยูเครนที่สนามแฮมป์เดนพาร์กในกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ และนี่คือประเด็นก่อนเกมของทั้ง 2 นัด
ราฮีม สเตอร์ลิง คือนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำประตูให้อังกฤษได้
อังกฤษ vs. เยอรมนี สิงโตฟอร์มไม่งามปะทะอินทรีสภาพไม่ดี
เกมระหว่างอังกฤษกับเยอรมนีอาจจะเป็นคู่ที่แฟนบอลชาวไทยรอคอยมากที่สุดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจากมีแฟนบอลของทั้ง 2 ชาติอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม เกมในเวลา 23.00 น. ค่ำคืนนี้ไม่ใช่เกมที่ทั้ง 2 ทีมอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เนื่องจากทั้ง 2 ทีมมีข้อกังขาในบางจุดที่อาจทำให้แฟนบอลไม่แน่ใจในศักยภาพและฟอร์มการเล่น โดยเฉพาะทางฝั่งเยอรมนีที่มีนักเตะตัวจริงอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมถึง 3 ราย
แต่ก่อนจะไปฝั่งเยอรมนี เรามาพูดถึงอังกฤษกันก่อน แม้ว่าเรื่องสภาพทีมอาจจะไม่ได้เสียใครไปมากมาย ยกเว้นแค่ เบน ชิลเวลล์ กับ เมสัน เมาท์ ที่ถูกแยกซ้อมมาถึง 10 วัน หลังมีความเสี่ยงจะติดโควิดจากการไปสัมผัสกับ บิลลี กิลมัวร์ แต่ทั้ง 2 คนก็พ้นระยะกักตัวมาทันในเกมนี้พอดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า แกเร็ธ เซาท์เกต จะเลือกใช้งานนักเตะทั้ง 2 คนในเกมนี้หรือไม่เท่านั้น
แต่จุดที่เป็นปัญหาสำหรับอังกฤษคือฟอร์มการเล่นในสนาม โดยเฉพาะเกมรุกที่ยิงได้ 2 ประตู จาก 3 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม แม้จะเพียงพอให้เป็นแชมป์กลุ่ม แต่การที่ แฮร์รี เคน มีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษนับครั้งได้ตลอด 3 เกมที่ผ่านมา นั่นน่าจะเป็นปัญหาใหญ่มากกว่า เพราะเมื่อบอลไปไม่ถึงเคน ก็ทำให้กองหน้าดีกรีราคาขายเกิน 100 ล้านปอนด์รายนี้ดูไร้พิษสงขึ้นมาทันที และการจะเล่นแบบนี้กับทีมอย่างเยอรมนีเห็นจะไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก
ทางด้านทีมอินทรีเหล็ก พวกเขาอาจจะดูฟอร์มโดยรวมดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็มีเกมที่ไล่ถล่มโปรตุเกสแบบประกาศศักดามาบ้าง แต่ในเกมนี้มีรายงานว่า นักเตะตัวหลักถึง 3 คน จะลงสนามไม่ได้ ไล่ตั้งแต่ อิลคาย กุนโดกัน เขามีอาการช้ำที่ศีรษะ ซึ่งน่าจะมีโอกาสลงสนามไม่ได้มากที่สุด รองลงมาคือ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ โรบิน โกเซนส์ โดยทั้งคู่มีอาการไข้หวัดพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่า โยอาคิม เลิฟ เคยบอกว่า โธมัส มุลเลอร์ หมดสิทธิ์ลงสนามในเกมพบกับฮังการี ก่อนจะเปลี่ยนเขาลงมาเล่นในครึ่งหลังมาแล้ว ดังนั้นข่าวอาการบาดเจ็บของนักเตะเยอรมนีก็ไม่แน่ว่าจะเชื่อได้ 100% ขนาดนั้น แต่ในกรณีที่ทั้ง 3 คนลงสนามไม่ได้จริง เกมนี้อินทรีเหล็กน่าจะลำบากพอสมควรในการรับมือกับอังกฤษท่ามกลางแฟนบอลของพวกเขาเอง
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่พอจะทำให้แฟนเยอรมนีสบายใจได้ก่อนเกม ก็คงจะเป็นเรื่องที่ทีมชาติของพวกเขาไม่เคยแพ้ที่เวมบลีย์แห่งนี้เลยนับตั้งแต่สนามกลับมาถูกเปิดใช้งานในปี 2007 พวกเขามาเล่นที่นี่ 3 นัด เสมอ 1 นัด และชนะ 2 นัด ซึ่งอังกฤษก็พยายามที่จะมองหาชัยชนะเหนือเยอรมนีในบ้านของพวกเขาแห่งนี้อยู่ตลอดเช่นกัน
เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ยิงให้สวีเดนไปแล้วถึง 3 ประตูในรายการนี้
สวีเดน vs. ยูเครน ศึกของม้ารองบ่อน
ถ้าเทียบกับคู่เวลา 23.00 น. ทั้งเรื่องของชื่อชั้นและคุณภาพนักเตะ คิดว่าคงมีใครหลายคนตัดสินใจจะ ‘เท’ คู่นี้แบบไม่ลำบากใจ เพราะนอกจากจะแข่งขันดึกตอน 02.00 น. แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากเกมคู่นี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหากแฟนบอลส่วนมากจะคิดอย่างนั้น แต่เมื่อมาดูองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะเห็นว่าฟุตบอลคู่นี้มีความน่าสนใจอยู่ในนั้นไม่น้อย และน่าจะเป็นเกมที่สนุกอีกเกมได้ไม่ยาก
สวีเดนและยูเครนมีอะไรคล้ายๆ กันอย่างน่าประหลาด นอกจากสีสันและสีเสื้อแล้ว ทั้ง 2 ชาติไม่ได้เล่นในบ้านในรอบแบ่งกลุ่มเหมือนกัน ยิงได้เท่ากันในรอบแรกที่ 4 ประตู และยังตกรอบแบ่งกลุ่มในการแข่งขัน 2 หนล่าสุดก่อนหน้านี้เหมือนกันอีก เหมือนกันไปยันโค้ชที่ต่างมารับตำแหน่งในปี 2016 หลังจากความล้มเหลวในยูโรครั้งก่อนเหมือนกันด้วย แต่ที่ไม่เหมือนกันแน่ๆ คือจะมีแค่ทีมเดียวที่ได้ไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของยูโรคราวนี้
ยูเครนเป็นทีมที่เพิ่งก่อร่างสร้างฟุตบอลให้แข็งแกร่งขึ้นมาในระยะไม่ถึง 20 ปีหลังสุด ในยุคโกลเดน เจเนอเรชัน ที่มีนักเตะอย่าง อังเดร โวโรนิน, อังเดร เชฟเชนโก และ อนาโตลี ติโมชุก เป็นแกนหลัก แต่ผลงานการเจอกับสวีเดน 4 ครั้ง กลับเอาชนะไปได้ถึง 3 หน และแพ้แค่ครั้งเดียว และแม้จะเข้ารอบมาในฐานะทีมที่มีโชคจากการเป็น 1 ใน 4 อันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่สภาพทีมของพวกเขาก็ค่อนข้างดีกว่า หลัง อเล็กซานเดอร์ ซูคอฟ และ เดนิส โปปอฟ กลับมาซ้อมได้ตามปกติแล้ว
ขณะที่สวีเดน พวกเขายังต้องลุ้นความฟิตของ มัตทิอัส สวานเบิร์ก ก่อนเกม แต่ตัวหลักๆ อย่าง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, อเล็กซานเดอร์ อิซัก และดาวรุ่งฟอร์มดีอย่าง เดยัน คูลูเซฟสกี พร้อมลงสนามในเกมที่แฮมป์เดนพาร์ก ทำให้น่าจะหมดห่วงในเกมรุกเช่นกัน
เกมนี้ทั้ง 2 ทีมต่างเป็นทีมที่มีกองหน้ามีศักยภาพ แม้ชื่อชั้นและตัวผู้เล่นจะดูเป็นรองคู่ระหว่างอังกฤษกับเยอรมนีพอสมควร แต่ก็มีนักเตะที่น่าจับตามองหลายคน เช่น อิซัก, คูลูเซฟสกี หรือฟอร์สเบิร์ก ของสวีเดน และ รุสลัน มาลินอฟสกี, โรมัน ยาเล็มชุก รวมไปถึง อังเดร ยาโมเลนโก ของยูเครน แถมเกมนี้น่าจะเป็นเกมที่บุกแลกใส่กันอย่างสนุก เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่กลัวกัน ทำให้เกมนี้อาจจะน่าตื่นตาตื่นใจกว่าเกมคู่ 23.00 น. ก็เป็นได้
อ้างอิง:
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024484–england-vs-germany/
- https://www.uefa.com/uefaeuro-2020/match/2024483–sweden-vs-ukraine/
- https://www.skysports.com/football/england-vs-germany/preview/421524
- https://www.skysports.com/football/news/12023/12344390/euro-2020-ilkay-gundogan-antonio-rudiger-and-robin-gosens-could-miss-england-vs-germany-in-last-16
- https://www.skysports.com/football/news/11095/12343566/germany-legend-lothar-matthaus-respects-england-but-says-players-alone-are-not-enough-to-win-euro-2020