มังกรแดงได้ 2 ประตูช่วงท้ายครึ่งแรกและท้ายครึ่งหลัง เอาชนะตุรกีไปได้ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน จาก 2 นัด โอกาสเข้ารอบสดใส
ตุรกีลงสนามนัดที่ 2 ที่บากู สเตเดียม โดยเปลี่ยนผู้เล่น 2 ตำแหน่งจากเกมที่พ่ายต่ออิตาลี 0-3 โดยส่ง คาน อายาน ลงมาเล่นแทน เมริห์ เดมิรัล ในแนวรับ และส่ง เซนกิซ อุนแดร์ ลงสนามในแดนกลางแทนที่ ยูซุฟ ยาซิซี ส่วนเวลส์จัด 11 ตัวจริงชุดเดียวกับในเกมที่แล้ว และเป็นฝ่ายบุกใส่ตั้งแต่ต้นเกม แต่กว่าจะมาได้ประตูก็ต้องรอในช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 เมื่อ แกเร็ธ เบล วางบอลให้ อารอน แรมซีย์ หลุดเดี่ยวไปยิงสวนตัว อูกูร์กาน ชาคีร์ เข้าไปให้ทีมนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังตุรกีถูกบังคับให้เป็นฝ่ายเดินเข้าหา แต่ไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบจะๆ สักเท่าไร ทว่า กลับเป็นฝ่ายเวลส์ซึ่งรอจังหวะโต้กลับที่ได้ลุ้นชัดเจนกว่า โดยเฉพาะจังหวะลูกที่จุดโทษนาที 61 แต่ แกเร็ธ เบล ยิงออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ จนเกมดำเนินมาถึงช่วงท้าย มังกรแดงก็มาได้ประตูย้ำชัยในนาที 90+5 เมื่อเบลพาบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนแตะให้ คอเนอร์ โรเบิร์ตส์ ยิงจ่อๆ ระยะราว 6 หลา ปิดเกมให้เวลส์เอาชนะตุรกี 2-0
2 แอสซิสต์ของ แกเร็ธ เบล ช่วยให้เวลส์เก็บชัยชนะด้วยการทำมากกว่า 1 ประตูครั้งแรกในรอบ 7 เกม และทำให้มังกรแดงเก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน จาก 2 นัด ถึงจะยังไม่การันตีการเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่โอกาสได้ไปต่อค่อนข้างสดใส ส่วนตุรกียังไม่มีคะแนนจาก 2 นัด แถมประตูได้เสีย -5 ประตู ต้องไปลุ้นการเข้ารอบในตำแหน่งที่ 3 ที่ดีที่สุด 1 ใน 4 ทีมในเกมสุดท้ายต่อไป
Man of the Match: แกเร็ธ เบล (เวลส์)