เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา Burberry แบรนด์ชื่อดังจากอังกฤษ ได้ประกาศว่าจะเป็นแบรนด์ที่ ‘มีผลกระทบเชิงบวกต่อสภาพภูมิอากาศ’ ภายในปี 2040 หรืออีก 19 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าบริษัทจะเป็นแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีแบรนด์แรกที่ตั้งเป้าหมายดังกล่าว
การให้คำมั่นสัญญาครั้งนี้เป็นเป้าหมายใหม่ที่บริษัทได้ตั้งไว้ จากเดิมที่มุ่งเน้นแค่เพียงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2040 โดยล่าสุดทางแบรนด์ได้เพิ่มแผนปฏิบัติการมากมาย เพื่อบรรลุเป้าหมายใหม่ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดขององค์กร การช่วยเหลือชุมชน สังคม และผู้คน ผ่านโครงการต่างๆ และปรับซัพพลายเชนของแบรนด์
โดยสาระสำคัญคือเร่งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสายพานการผลิตสินค้าให้ได้ 46% จากเดิม 30% ภายในปี 2030 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการจำกัดอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น 1.5 องศาตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) และการส่งเสริมและลงทุนในโปรเจกต์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในการฟื้นฟูระบบนิเวศและชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนผ่าน Burberry Regeneration Fund โดยเริ่มต้นที่ PUR Projet ในการช่วยผู้ผลิตวูลในออสเตรเลีย นำระบบการเกษตรแบบฟื้นฟูเข้ามาใช้ในการปรับปรุงดินและเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
เท่านั้นยังไม่พอ ทางแบรนด์ได้ร่วมสนับสนุนกลุ่มที่มีชื่อว่า Fashion Avengers ที่เป็นการรวมตัวขององค์กรและแบรนด์แฟชั่นที่ต้องการขับเคลื่อนสังคมไปยังเป้าหมายความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ผ่านโปรเจกต์ศิลปะล่าสุดที่มีชื่อว่า ‘Forest for Change’ การจัดแสดงศิลปะในช่วง London Design Biennale ผลงานการออกแบบของนักออกแบบชาวอังกฤษ เอส เดฟลิน ที่ยกต้นไม้กว่า 400 ต้นมาไว้ใจกลาง Somerset House ในกรุงลอนดอน และการติดตั้งเสาหลากสีจำนวน 17 เสาใจกลางสวน ที่ระบุ 17 เป้าหมายอย่างชัดเจน ตั้งแต่เรื่องขจัดปัญหาความยากจน การขาดแคลนอาหาร ความเท่าเทียมทางเพศ เชื้อชาติ และพลังงานสะอาด พร้อมกับเทคโนโลยีเสียง ให้ผู้เข้าชมได้ร่วมเรียนรู้ระหว่างเดินชมผลงานตลอดเดือนมิถุนายนนี้
Marco Gobetti ซีอีโอของ Burberry กล่าวบนเว็บไซต์ของแบรนด์ว่า “Burberry ถูกก่อตั้งขึ้นมาบนพื้นฐานของการออกสำรวจธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง และมันเป็นแรงบันดาลใจให้กับเรามามากกว่า 150 ปี จากมรดกของการสำรวจและแรงขับเคลื่อนด้วยจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ของเรา วันนี้เราได้ตั้งเป้าหมายใหม่เพื่อสภาพภูมิอากาศดีขึ้นในปี 2040”
ภาพ: Cindy Ord / Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
