อิตาลีเริ่มต้นการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ระดับชาตินัดแรกในรอบเกือบ 5 ปีได้อย่างน่าประทับใจ ภายใต้พิธีเปิดสุดตระการตาท่ามกลางบรรดาแฟนบอลของพวกเขาในกรุงโรม
ชิโร อิมโมบิเล (คนกลาง) ยิง 1 จ่าย 1 ในเกมนี้
อิตาลีลุคใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ชัยชนะของอิตาลีที่เกิดขึ้นเหนือตุรกีในเกมเปิดสนาม ตอกย้ำสถิติอันแข็งแกร่งที่ไม่แพ้ใครมาติดต่อกัน 28 เกมในการแข่งขันทุกรายการว่าทีม ‘อัซซูร์รี’ ชุดนี้เป็นของจริง เพราะนอกจากชัยชนะท่วมท้นที่เกิดขึ้นเหนือทีมที่มีเกมรับอันดับ 1 ร่วมในรอบคัดเลือกแล้ว วิธีการเล่นของพวกเขาก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
อิตาลีทิ้งสไตล์การเล่นแบบ ‘คาเตนัคโช’ ที่เน้นเกมการป้องกัน มาเป็นฝ่ายที่ครองเกมเดินเข้าหาคู่แข่ง พวกเขาไล่บีบกดดันทัพ ‘ไก่งวง’ ตั้งแต่แดนหน้า และกลยุทธ์นี้ก็ทำให้ทีมได้ครองบอลมากถึง 66% ในครึ่งแรก แม้จะยังทำประตูไม่ได้ ทว่าก็มีจังหวะได้ลุ้นถึง 14 ครั้งในช่วงเวลาแค่ 45 นาที
ทีมเวิร์กอันยอดเยี่ยมมาประสบผลสัมฤทธิ์ในครึ่งหลัง เมื่อลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของ โดเมนิโก เบราร์ดี ไปถูกตัว เมริห์ เดมิราล แนวรับตุรกีเข้าประตูตัวเองไป กลายเป็นประตูคลายความกดดันให้อดีตแชมป์รายการนี้ในปี 1968 เล่นได้ผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นอีก 2 ประตูก็ตามมาในนาทีที่ 66 จาก ชิโร อิมโมบิเล กองหน้าค่ายลาซิโอที่เล่นในสนามเหย้าของสโมสรตัวเอง ก่อนที่ ลอเรนโซ อินซิเญ จะมายิงประตูตอกฝาโลงอีกลูกในนาทีที่ 79 ช่วยให้อิตาลีขึ้นนำกลุ่มเอชั่วคราวหลังจบเกมแรกจาก 51 เกมในศึกยูโร 2020 ที่จะแข่งขันในอีก 11 เมืองใหญ่ทั่วยุโรปหลังจากนี้
อิตาลียิง 3 ประตูในเกมเดียวเป็นครั้งแรกในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยสร้างโอกาสตลอดเกมได้ถึง 24 ครั้ง และครองบอลบุกมากกว่าตลอดทั้งเกมถึง 61% แถมชัยชนะนัดนี้ยังเป็นชัยชนะนัดที่ 9 ติดต่อกันที่พวกเขาไม่เสียประตูให้คู่แข่งไม่ว่าจะเจอกับใครด้วย พร้อมขึ้นไปรั้งจ่าฝูงในกลุ่มเอก่อนด้วยการมี 3 คะแนนเต็ม
ตุรกีเสียถึง 3 ประตูในเกมนี้
ตุรกีที่น่าผิดหวังเมื่อถูกพังเกมรับ
ตลอดรอบคัดเลือกที่ผ่านมา ตุรกีเข้ารอบมาด้วยการ ‘ซื้อเกมรับ’ พวกเขาเสียไปเพียง 3 ประตูตลอดการแข่งขันในรอบนี้ และมีทีเด็ดที่โค่นทีมแชมป์โลกอย่างฝรั่งเศสได้ ด้วยเก็บคะแนนจากทีม ‘ตราไก่’ 2 นัดได้ถึง 4 แต้ม ทว่าเมื่อต้องมาเจอทีมอย่างอิตาลีที่บดใส่จนสุดท้ายเกมรับก็พังลงและทีมกลับพังตาม
เซนอล กูเนส ที่เคยคุมทีมชาติตุรกีระหว่างปี 2000-2004 และพาทีมไปไกลถึงที่ 3 ในฟุตบอลโลก 2002 วางแท็กติกให้ทีมของพวกเขาต้องไม่เสียประตูก่อน และหวังลุ้นประตูจากเกมโต้กลับ แต่เมื่อเจอกับลูกขยันจากการไล่บอลในแดนบนของอิตาลี เกมโต้ของพวกเขาก็เจอกับความยากลำบาก และสุดท้ายเมื่อเสียประตูทุกอย่างก็พังครืนลงมา
ตุรกีเล่นด้วยการซื้อเกมรับมาตลอด ดังนั้นเมื่อต้องมาบุกเอาประตูคืนแล้วทำไม่ได้ ทีมเวิร์กของอิตาลีก็เล่นงานพวกเขาอย่างชัดเจน ทำให้พวกเขาต้องหาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ข่าวดีก็คือเกมอีก 2 นัดที่เหลือน่าจะไม่หนักเท่ากับเกมนี้อีกแล้ว และโอกาสเข้ารอบต่อไปยังคงเปิดกว้างอยู่
สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม ท่ามกลางพลุตระการตาในพิธีเปิด
พิธีเปิดดูดี มีพลังบวก และเข้ากับสถานการณ์
พิธีเปิดถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ด้วยการแสดงที่มีลูกโป่งหลากสีที่มาพร้อมกับ อันเดรอา โบเชลลี นักร้องโอเปราชาวอิตาเลียน ที่ออกมาขับกล่อมเพลง เนสซูน ดอร์มา (Nessun Dorma) หลังจากนั้นพลุมากมายก็ถูกจุดขึ้นมารอบสตาดิโอ โอลิมปิโก กรุงโรม เป็นสัญญาณการเปิดฉากศึกยูโรในครั้งนี้
หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงแบบเสมือนจริงที่ถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทางบ้านได้รับชม ซึ่งเป็นการเล่นเพลง We Are The People เพลงประจำการแข่งขันฟุตบอลยูโรในครั้งโดย 3 ศิลปิน ทั้งมาร์ติน แกร์ริกซ์, โบโน และดิเอดจ์
โดยเพลงมีเนื้อหาพูดถึงความท้าทายเพื่อจะสะท้อนให้เห็นถึงความหวังและพลังด้านบวก ไปจนถึงความสามารถที่จะเอาชนะและฝ่าฟันไปด้วยกัน นอกจากจะมีความหมายในเชิงของฟุตบอลแล้ว ยังสื่อถึงสถานการณ์ของโลกที่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตในตอนนี้ด้วย
Absolutely GONE at this remote control car.
Gone.
I love football. So much.— Carl Anka (@Ankaman616) June 11, 2021
รถส่งลูกฟุตบอล กิมมิกน่ารักก่อนเกม
ก่อนการเขี่ยลูกเริ่มเล่นระหว่างตุรกีกับอิตาลี รถบังคับวิทยุที่มีโลโก้ของโฟล์กสวาเกนก็นำลูกบอลจากข้างสนามไปส่งให้ถึงมือผู้ตัดสินเพื่อนำลูกไปตั้งไว้ที่กลางสนามให้นักเตะเขี่ยเริ่มเกม แม้นี่จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่มันก็สร้างความฮือฮาอันน่าแปลกใจให้กับแฟนบอลและผู้ที่ได้รับชมไม่น้อย
โดยปกติแล้วหน้าที่การส่งบอลจะถูกมอบหมายให้เด็กๆ มีส่วนร่วมในการเอาลูกฟุตบอลไปส่งให้ถึงมือผู้ตัดสิน แต่พอมันกลายเป็นการส่งบอลแบบนี้ก็ไม่แปลกที่จะเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียลร่วมไปกับพิธีเปิดการแข่งขัน
โฆษณาเพลงเชียร์ยูโร
เชื่อว่าผู้ที่ได้รับชมการถ่ายทอดสดเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา ต้องติดหูกับเพลงของโฆษณารองเท้า ‘แอโร่ซอฟท์’ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขันในครั้งนี้เข้ามาถ่ายทอดในประเทศไทย นั่นทำให้แฟนบอลจะได้ยินเพลงจากโฆษณาตัวนี้ทุกครั้งที่มีการตัดเข้าโฆษณา
และหลายคนยังน่าจะมูฟออนจากเนื้อหาเพลงที่ว่า “เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟท์, เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟท์” ไม่ได้อย่างแน่นอน…
เกร็ดน่าสนใจในเกมนี้
- อิตาลีห่างหายจากการลงเล่นในการแข่งขันเมเจอร์ระดับชาติไปถึง 1,805 วัน ก่อนเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเกมสุดท้ายที่พวกเขาได้ลงเล่นคือเกมพบกับ เยอรมนีในฟุตบอลยูโร 2016 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563
- ทีมชาติตุรกีชุดนี้มีอายุเฉลียน้อยที่สุดในการแข่งขัน เพียง 24 ปี 353 วันเท่านั้น
- อิตาลีเพิ่มสถิติไม่แพ้ใครที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโก ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ระดับชาติออกไปเป็น 9 เกม หลังชัยชนะเหนือตุรกี 3-0
- จอร์โจ คิเอลลินี ทำสถิติลงเล่นในฟุตบอลยูโรครั้งนี้เป็นสมัยที่ 4 มากที่สุดในทีมชาติอิตาลีเทียบเท่ากับ จานลุยจิ บุฟฟอน และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร
- นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ประตูแรกในการแข่งขันมาจากการทำเข้าประตูตัวเอง
- อิตาลียิงได้ 3 ประตูเป็นครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลยูโรทั้งหมด 39 เกมที่พวกเขาเคยลงสนามมา
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: