บริษัท Pfizer Inc. ผู้ผลิตยาและวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยวานนี้ (8 มิถุนายน) ว่าจะเริ่มต้นการทดสอบและศึกษาข้อมูลการให้วัคซีนต้านโควิด-19 ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หลังจากที่มีการทดสอบให้วัคซีนในปริมาณโดสที่ต่ำกว่าในการทดสอบขั้นต้น
การทดสอบวัคซีนดังกล่าว จะดำเนินการในกลุ่มเด็กจำนวน 4,500 คนใน 90 สถานที่ ทั้งในสหรัฐฯ ฟินแลนด์ โปแลนด์ และสเปน อ้างอิงข้อมูลทดสอบด้านความปลอดภัย ความทนทานและการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน จากการทดสอบเฟสที่ 1 ในเด็ก 144 คนที่รับการฉีดวัคซีน 2 โดส
โดยโฆษกของ Pfizer เปิดเผยรายละเอียดว่า จะทดสอบให้วัคซีน 10 ไมโครกรัมต่อ 1 โดส ในเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี และ 3 ไมโครกรัมสำหรับเด็กวัย 6 เดือนจนถึง 5 ขวบ
ซึ่งการทดสอบในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จะเริ่มต้นได้ในช่วงสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะทราบผลทดสอบที่ชัดเจนในช่วงเดือนกันยายน ก่อนที่จะมีการยื่นขอขึ้นทะเบียนใช้งานฉุกเฉินในเดือนเดียวกัน
ส่วนข้อมูลผลทดสอบสำหรับเด็กอายุ 2-5 ปี คาดว่าจะทราบหลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี คาดว่าจะทราบผลทดสอบในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC) ของสหรัฐฯ พบว่าปัจจุบันมีวัยรุ่นชาวอเมริกันเกือบ 7 ล้านคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ซึ่งการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กนั้นถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันหมู่และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่สำนักงานยาแห่งยุโรป (European Medicines Agency: EMA) กำลังพิจารณาคำขออนุมัติใช้งานวัคซีนของบริษัท Moderna ในเด็กอายุ 12-17 ปีในเดือนหน้า โดยหากได้รับการอนุมัติจะถือเป็นวัคซีนตัวที่ 2 ต่อจากวัคซีนของ Pfizer-BioNTech ที่ได้ไฟเขียวจาก EU ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ภาพ: Photo by Irfan Khan / Los Angeles Times via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
