วันนี้ (3 มิถุนายน) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ ว่าที่ ร.ต. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวร่วมกับ วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท. มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เดชา วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร แถลงข่าวระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลกลุ่มนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบขนยาเสพติดซุกซ่อนกับสิ่งของไปยังต่างประเทศหลายคดี โดยในครั้งนี้เป็นการจับกุมผู้ต้องหา เถ่า ซื่อ จี้ ชาวสิงคโปร์ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ
สืบเนื่องจากเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสิงคโปร์ (Central Narcotics Bureau: CNB) ว่ามีการตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศซุกซ่อนยาเสพติด (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ถูกส่งจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ผ่านทางเครื่องบิน
ต่อมาชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force: AITF) ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้สืบสวนขยายผลผู้ส่งยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เฝ้าระวังพัสดุไปยังสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยานสามารถตรวจยึดพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศด่วนพิเศษ (EMS) ปลายทางประเทศสิงคโปร์ จำนวน 2 ชิ้น ซุกซ่อนยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม และเอ็กสตาซีจำนวนประมาณ 1,320 เม็ด ณ ศูนย์ไปรษณีย์สุวรรณภูมิ
จากการสืบสวนพบว่าผู้ส่งพัสดุคือ เถ่า ซือ จี้ ชาวสิงคโปร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อขออนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าว จนต่อมาศาลอาญาอนุมัติหมายจับและนำไปสู่การจับกุม
วันนี้ เวลาประมาณ 7.00 น. ชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยานร่วมกันเข้าตรวจค้นห้องพักแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน), 3-4 เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ยังพบของกลางที่ใช้เป็นพยานหลักฐาน และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้บรรจุซุกซ่อนยาเสพติดลักษณะเช่นเดียวกับที่เคยตรวจยึดพร้อมยาเสพติด ได้แก่ เครื่องขยายเสียง อุปกรณ์การหีบห่อ เครื่องชั่งดิจิทัล และอีกหลายรายการ
ด้าน เดชา วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปราม 3 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ภายใต้ชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Taskforce: AITF) ได้ให้ข้อมูลสถิติการตรวจยึดระหว่างเดือนตุลาคม 2563 – พฤษภาคม 2564 จำนวน 10 คดี แยกเป็นของกลาง เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) 5,160 กรัม เอ็กสตาซีหรือยาอี 2,910 เม็ด กัญชา 2,171 กรัม เคตามีน 515 กรัม รวมมูลค่าทั้งสิ้น 12,859,565 บาท
พล.ต.ท. มนตรี ยิ้มแย้ม ได้กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย ประกอบด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ส่งผลให้สามารถจับกุมตัวผู้ส่งยาเสพติดออกจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ได้ และต่อจากนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวนในคดีจะร่วมกับชุดสืบสวนทำการขยายผลการจับกุมเพื่อดำเนินการกับเครือข่ายนี้ต่อไป
ด้าน วิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำหรับการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั้งขาเข้าและขาออกจากประเทศไทย สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานกลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งการประสานงานในระดับอาเซียนและระดับนานาชาติ ในคดีนี้ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลให้กับทางหน่วยปราบปรามยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (Central Narcotics Bureau: CNB) เพื่อดำเนินการกับเครือข่ายนี้ในประเทศสิงคโปร์ต่อไป
ขณะที่ว่าที่ ร.ต. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวตอนท้ายว่า ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่ง สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมทรัพยากรแก้ไขปัญหาในทุกมิติ และได้เร่งรัดและเร่งดำเนินการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อใช้ พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ยึดทรัพย์สินผู้เกี่ยวข้องต่อไป
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ