ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS ช่วงการซื้อขายภาคเช้าวันนี้ (1 มิถุนายน) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ณ 12.00 น. อยู่ที่ 9.40 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท จากวันก่อนหน้า หรือ +2.73% และระหว่างซื้อขาย ไต่ระดับทำราคาสูงสุดที่ 9.50 บาท
ปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 มิถุนายน) นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรหุ้น BTS ด้วยสองปัจจัยหลัก คือผลประกอบการงวดปี 2563/2564 ซึ่งประกาศออกมาก่อนเปิดตลาดไม่นานนัก และพบว่าผลประกอบการดีกว่าที่หลายโบรกเกอร์คาดการณ์เอาไว้ นักลงทุนจึงมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากไม่รับกำไรพิเศษงวดปี 2563/2564 BTS จะมีกำไรจากการดำเนินการราว 2.6 พันล้านบาทเท่านั้น ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานไว้ตามเดิม
ปัจจัยที่ 2 คือแรงเก็งกำไรข่าวการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งตามข่าวรายวันระบุว่าจะมีการนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. วันนี้ และน่าจะได้รับการอนุมัติต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าวอีก 30 ปี
“ปัจจัยนี้มีผลต่อการประเมินมูลค่าหุ้น เพราะสัมปทานสายสีเขียวกำลังจะหมดในปี 2572 หรือเหลือเวลาอีก 8 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการนำเข้าพิจารณาใน ครม. และการได้รับพิจารณาอนุมัติให้ต่อสัมปทานแต่อย่างใด”
แหล่งข่าวนักวิเคราะห์กล่าวว่า หาก ครม. อนุมัติต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS ไปอีก 30 ปี จะทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นราว 3 บาท บทสมมติฐานเพดานค่าตั๋วโดยสารที่ 65 บาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าที่ประชุม ครม. มีการพิจารณาเรื่องนี้ในวันนี้หรือไม่
ขณะเดียวกัน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2563/2564 (เมษายน 2563 – มีนาคม 2564) BTS มีรายงานรายได้รวม จำนวน 42,379 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้จากธุรกิจ MOVE จำนวน 31,401 ล้านบาท เติบโต 7.1% หรือ 2,092 ล้านบาทจากปีก่อน รายได้จากการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ รวมจำนวน 25.3 พันล้านบาท และรายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงจำนวน 5,335 ล้านบาท เติบโตอย่างโดดเด่น 42.2% หรือ 1,582 ล้านบาทจากปีก่อน
BTS มีกำไรจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (Recurring EBITDA) จำนวน 8,800 ล้านบาท ลดลง 8.7% หรือ 841 ล้านบาทจากปีก่อน
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 BTS สามารถสร้างกำไรสุทธิจากรายการที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จำนวน 3,738 ล้านบาท แต่ลดลง 21.7% หรือลดลง 1,039 ล้านบาทจากปีก่อน
และมีกำไรสุทธิ จำนวน 4,576 ล้านบาท แต่ลดลง 43.9% หรือ 3,585 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8,161.74 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานงวดปี 2563/2564 ปรับตัวลดลง เนื่องจากส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้า และบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Mix และธุรกิจ Match ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม การลดลงของกำไรสุทธิบางส่วนถูกชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง ปัจจัยหลักมาจากการเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีเขียว (เหนือ)
ขณะที่เมื่อวานนี้ (31 พฤษภาคม) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 2563/2564 งวดสุดท้ายจำนวนไม่เกิน 2,106.9 ล้านบาท ในจำนวนหุ้นละ 0.161 บาท คิดเป็นเงินปันผลทั้งปีประมาณ 4,081.0 ล้านบาท ทั้งนี้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ประจำปีคิดเป็น 3.33% เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ที่ราคา 9.00 บาท (1 วันก่อนคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผล) กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล 27 กรกฎาคม 2564 กำหนดจ่าย 11 สิงหาคม 2564
รวมถึงคณะกรรมการอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาและอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BTS ครั้งที่ 6 (BTS-W6) ครั้งที่ 7 (BTS-W7) และครั้งที่ 8 (BTS-W8) รวมจำนวนไม่เกิน 4,608,855,895 หน่วย
โดยคณะกรรมการอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 21,107,423,580 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 5,276,855,895 หุ้น เพื่อรองรับ BTS-W6 จำนวนไม่เกิน 658,407,985 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่า ในอัตราการจัดสรร 20 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 โดย BTS-W6 มีอายุ 1 ปี ราคาการใช้สิทธิ 9.90 บาทต่อหุ้น
BTS-W7 จำนวนไม่เกิน 1,316,815,970 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราการจัดสรร 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 โดย BTS-W7 มีอายุ 3 ปี ราคาการใช้สิทธิ 11.90 บาทต่อหุ้น
BTS-W8 จำนวนไม่เกิน 2,633,631,940 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราการจัดสรร 5 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 โดย BTS-W8 มีอายุ 5 ปี ราคาการใช้สิทธิ 14.90 บาทต่อหุ้น
คณะกรรมการอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เพื่อพิจารณาและอนุมัติแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 2,600 ล้านบาท (4.94% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท) โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 650 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้แก่บริษัท หากมีผู้ลงทุนที่เหมาะสม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
